กลุ่มออกล่าของเราวันนี้รวมด้วยผมก็มี ก๊อบคิจิ และ ก๊อบมิจัง 3 คน
ต่างจากหลายๆวันที่ผ่านมาวันนี้พวกเราอุปกรณ์ครบมือเชียวล่ะ (แม้ว่าคุณภาพมันจะดูหยาบไปซักหน่อยก็เถอะ)
อาวุธของผมก็คือเขาขนาดใหญ่ที่คัดมาเท่าๆกันถือไว้ทั้ง 2 ข้างเป็นอาวุธคู่ ในกรณีที่ผมถูกโจมตี ผมทำชุดเกราะด้วยเขาที่เหลือผูกไปกับเถาวัลย์พันรอบๆตัวผม ถึงจะมีช่องโหว่ระหว่างเขาเล็กน้อยแต่ว่ามันก็เพียงพอต่อการรับแรงกระแทกหรือพุ่งชนได้ดี
ทางด้าน ก๊อบคิจิ ใช้โล่ที่ทำจากไม้และตะบองเป็นอาวุธ แม้ว่าผมจะเหลาด้ามของมันให้เล็กลงแล้วแต่มันก็ยังหนาจน ก๊อบคิจิ ต้องถือสองมืออยู่ดี (โล่ก็เหน็บไว้ด้านหลัง) ช่วยไม่ได้หรอกนะที่อาวุธของ ก๊อบคิจิ จะมีแค่นี้ เพราะไอหมอนี่มันถนัดใช้แรงเพียวๆ ไม่ใช้สมองเลยนี่สิ ผมจึงต้องทำอาวุธที่สามารถดึงจุดเด่นของเจ้าตัวออกมาให้มากที่สุด
สำหรับ ก๊อบมิจัง เธอเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะไกล ผมสร้างหนังสติ๊กง่ายๆจากเถาวัลย์และเศษเขาของพวกกระต่าย ให้เธอเป็นแนวหลัง เนื่องจากผมยังไม่มีเวลาสร้างเกราะให้เธอ ส่วนลูกกระสุนก็ใช้ก้อนหินจากรอบๆตัวนี่แหละ
อ้อลืมบอกไปพวกเศษผ้าเนี่ยยังเป็นชุดเริ่มต้นของพวกเราอยู่นะ ผมเองก็อยากใส่เสื้อผ้าใหม่ๆบ้างจัง อย่างไรก็ตามดูเหมือนการล่าของเราจะง่ายขึ้นมาก จากตัวเลขและประสบการณ์ที่ได้รับเพิ่มขึ้น ก๊อบคิจิ เป็นแนวหน้า ผมเป็นคนคอยเสริมช่วงกลาง และก๊อบมิจัง คอยซัพพอทอยู่แนวหลังจากระยะไกล นีมันเป็นรูปแบบที่สุดยอดมากๆ มันใช้ได้ผลอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ทำให้การล่าวันนี้ของพวกเราได้เหยื่อใหม่ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย
ตัวแรกเลยก็คือ งูพิษ ขนาด 60 เซนติเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางลำตัว 6 เซนติเมตร มีลายสีดำและเป็นจุดด่างตามลำตัว
พวกเราล่ามันได้มาทั้งหมด 3 ตัว ผมเลยตั้งชื่อชั่วคราวให้มันว่า [Night Vipers - งูรัตติกาล]
รายที่สอง ล่ามาได้ 1 ตัวคือค้างคาว ที่ดูไม่ค่อยจะเหมือนค้างคาวซักเท่าไร เพราะปีกของมันมี 7 สีเปร่งประกายออกมานี่สิ ผมเลยตั้งชื่อให้มันว่า [Seven Colored Bats - ค้างคาว 7 สี]
รายสุดท้าย เหมือนแรคคูณกับตัวนิ่มผสมกันมากกว่า แต่มันมีเปลือกหลังที่แข็งมากๆ ผมจึงตั้งชื่อว่า [Armored Tanuki - แรคคูนเกราะ] บวกกับ ฮอร์น แร้บบิท อีก 2 ตัว ทั้งหมดนี่เป็นการล่าที่สมบูรณ์แบบมาก
แต่ตอนนี้ ก๊อบคิจิกับก๊อบมิจัง เริ่มส่งสายตาโหยหวนมาที่ผมแล้วล่ะ ก็ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจความรู้สึกหรอกนะถ้าเป็นก๊อบลินตัวอื่นคงจะกินทันทีที่ล่าได้แน่นอน แต่ผมอยากจะทำการตรวจสอบเหยื่อทุกตัวเพื่อที่จะนำชิ้นส่วนมาทำเป็นอุปกรณ์ไปพร้อมๆกัน เมื่อเทียบกับการล่าปกติจึงต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะได้กินอาหาร กว่าผมจะทำการแยกชิ้นส่วนเสร็จก็ใช้เวลานานโขเลย ผมเลยเข้าใจว่าทำไมทั้ง 2 คนถึงรู้สึกหิวมาก แต่ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งคอของพวกเขาตกและรู้สึกผิดหวัง นั่นแหละผมจึงรู้สึกพอใจกับการแกล้งของผมแล้ว ช่วยไม่ได้หรอกนะ ฮ่าฮ่า
ผมดึงเขาออกมาจากหัวเจ้ากระต่าย และโยนตัวให้ทั้ง 2 คน ตอนแรกผมกะว่าจะเอาหนังของมันมาด้วยแต่ผมทนเห็นสภาพนั่งน้ำลายยืดของทั้ง 2 คนไม่ไหว ทั้งคู่หันมามองและทำหน้างงๆ อาจเป็นเพราะตอนแรกผมบอกว่าอย่าเพิ่งกินแต่ตอนนี้กลับโยนอาหารมาให้ คงใช้เวลาอีกซักพักผมเลยบอกให้ทั้งสองคนกินกันไปก่อน ทั้งคู่ดูมีความสุขกับการกินมากๆจนเลือดเลอะไปรอบๆปาก
ผมละสายตากลับมาทำงานต่อ อย่างแรกผมทำการเลาะเปลือกของ แรคคูน เกราะ มันแข็งขนาดที่เขาของ ฮอร์น แร้บบิท ยังทำลายไม่ได้ เหมาะที่จะนำมาทำเป็นชุดเกราะมากที่สุด ถึงเวลาที่มีดที่ผมนั่งทำจากหิน Obsidian ออกโรงซะที ถึงมันจะไม่ค่อยคมเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกับใช้เขากระต่ายแล้ว มันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเห็นๆผมตั้งใจจะถอดออกแต่ดูเหมือนว่าเปลือกของมันจะติดกับหนังดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องง่ายกว่าถ้าผมจะดึงมันออกมาด้วยกันเลยดีกว่ามานั่งแยกเปลือก หลังจากที่ผมพยายามอยู่พักนึง ผมก็แล่มันออกมาได้และทันใดนั้นก็มีเสียงลึกลับดังขึ้นมาอีกแล้ว
[ ก๊อบโรว ได้รับ หนังสัตว์ที่ตกแต่งด้วยเปลือง]
เจ้าสิ่งนี้มันดังขึ้นมาทุกครั้งเป็นปกติเลยสินะ ? อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมปลีกตัวออกไปคนเดียวซักแปปนึง ผมต้องการที่จะบำรุงร่างกายซักหน่อย ผมฉีกสมอง หัวใจ และขาของเจ้า แรคคูน เกราะ ออกมากิน เนื้อของเจ้าแรคคูนนี่มันอร่อยมากจริงๆ สัมผัสตอนเคี้ยวก็สุดยอด ผมจึงลองกินเปลือกเพื่อตรวจสอบมันซักหน่อย
อบิลิตี้:[เกราะป้องกัน Shell Defense] เรียนรู้แล้ว
จากการกินไปเล็กน้อย ผมก็ได้ความสามารถใหม่ทันที คงเป็นเพราะผมกินหัวใจ สมอง และก็ขาของมัน อบิลิตี้:[เกราะป้องกัน] เป็นทักษะที่เพิ่มพลังป้องกัน และลดพลังโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตเมื่อใช้อุปกรณ์ที่ทำจากจำพวก เกราะหรือเกล็ด ใช่แล้วมันเป็นทักษะที่ดีพอสมควร ผมนั่งแล่มันต่อไปอย่างเพลิดเพลิน เพราะผมรู้แล้วว่าควรจะแล่สวนไหนก่อนคราวนี้ผมกินเนื้อครึ่งนึงส่วนที่เหลือผมก็โยนให้ทั้งสองคน เพื่อเพิ่มระดับของสกิล [เกราะป้องกัน] ให้สูงขึ้น อ๊ะ! ไอเลเวลที่ผม
หมายถึงเนี่ยไม่ใช่ว่ามันจะลอยขึ้นมาหรืออะไรหรอกนะ ผมแค่ยกตัวอย่างให้พวกคุณเข้าใจง่ายว่ามันแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนก็พอแล้ว
ต่อมาผมเริ่มที่จะตรวจสอบ ค้างคาว 7 สี ผมแล่ปีกและถอดเล็บออกจากกัน จากนั้นก็ลองกินมัน ค้างคาว 7 สีมีเนื้อที่นุ่มละมุนอร่อยกว่า แรคคูณ เกราะ มาก อร่อยกว่ามากจริงๆนะ หรือจะบอกว่าตั้งแต่ผมเป็นก๊อบลินเนี่ยกินอะไรก็อร่อยไปหมดเลยรึไงนะ
ผมกินมันไปเยอะมากๆ แต่กลับไม่ได้ความสามารถอะไรเลย ยังดีที่ได้พละกำลังเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
ความสามารถ [การดูดกลืน] ของผมไม่ใช่ว่าจะดูดกลืนแต่ความสามารถจำพวก [เกราะป้องกัน] ซะทีเดียว มันดูดเอาพละกำลังความอึด และอื่นๆอีกด้วยนะ ซึ่งผมเองก็ขอบคุณเจ้าความสามารถนี้มาก (สะดวกสบายดีจริงๆ) แต่ผมก็สงสัยนะว่าความสามารถนี้จริงๆแล้วมาจากวิญญาณของผมเอง ? เหมือนผมจะได้ยินจากนักวิชาการบางคนนะว่า[ไวรัสชนิดพิเศษสามารถปลุกความสามารถให้แก่คนที่เข้ากับมันได้] หรือผมไม่เคยได้ยินกันนะ ...
หลังจากสับสนอยู่พักนึงผมก็เลยเลิกคิดเรื่องพวกนี้ไป และในที่สุดก็ถึงเวลาของอาหารจานหลักของเรานั่นก็คือ [งูรัตติกาล] 3 ตัว ตอนแรกผมตัดหัวของมันออกมา แต่หนังของมันหนาซะจนมีดของผมบิ่นไปเล่มหนึ่ง ผมจึงลองห้อยหัวมันลงแล้วตัดใหม่อีกที คราวนี้กลับตัดได้ง่ายๆ ผมแบ่งให้กับคนอื่นๆคนละตัว พวกเรากินอย่างเอร็ดอร่อยมากๆ ใช่มันอร่อยมากจริงๆเจ้างูบ้านี่มันอร่อยกว่าแรคคูนเกราะหรือค้างคาว 7 สีเป็นไหนๆ ถ้าย่างด้วยไฟอ่อนๆ และกินคู่กับสาเกไอนี่มัน ข้าวหน้าปลาไหลชัดๆ แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว มันอร่อยซะจนพวกเราหยุดทำงานและตั้งหน้าตั้งตากินส่วนของตัวเอง
อบิลิตี้:[ตรวจจับความร้อน Thermography] เรียนรู้แล้ว
อบิลิตี้:[สร้างและควบคุมพิษ Venom] เรียนรู้แล้ว
อบิลิตี้:[ต้านทานพิษ Poison Resistance] เรียนรู้แล้ว
อบิลิตี้:[คาดการณ์ Sense Presence] เรียนรู้แล้ว
อบิลิตี้:[ตาปีศาจ Evil Eye] เรียนรู้แล้ว
ดูเหมือนหลังจากที่ผมกินพวกมัน ผมจะได้ความสามารถเพิ่มขึ้นมา 5 อย่าง ดูเหมือนระดับของ งูรัตติกาล จะอยู่สูงกว่าผมพอสมควรเลย เพราะยิ่งผมได้กินสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าผมก็จะยิ่งได้รับความสามารถเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่กินครั้งเดียวได้ถึง 5 ความสามารถ ผมก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกเหมือนกันแฮะ ผมเดาว่าเป็นเพราะพวกก๊อบลินนั้น เป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอเลยทำให้ผมยกระดับไปไกลพอสมควร
เอาล่ะ ! ผมพอใจกับการล่าวันนี้พอสมควรเลย เขี้ยวของพิษงูน่าจะนำมาทำเป็นเครื่องมือได้ แต่ถ้า ก๊อบคิจิ กับ ก๊อบมิจัง ที่ไม่มีสกิล [ต้านทานพิษ] คงได้อยู่ในสภาพโคม่าใกล้ตายแน่ๆ หรือแย่สุดๆอาจจะตายได้ทันทีเลย นอกจากนี้ผมยังได้ความสามารถ [สร้างและควบคุมพิษ] ทำให้ผมประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ได้ เอ ~ ตัวอย่างก็สร้างพิษไว้ที่ปลายแหลมของเขากระต่ายนี่ก็เพียงพอแล้วล่ะมั้ง โดยผมต้องสัมผัสกับสิ่งที่ผมต้องการให้มีพิษเสียก่อนถึงจะสร้างได้
แบบนี้คงดูปลอดภัยกว่าเอาเขี้ยวพิษงูไปทำอาวุธโดยตรง และเพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองคนเผลอโดนพิษตาย ผมจึงจัดการกินหัวงูที่เหลือด้วยตัวเอง วิธีนี้ดูจะปลอดภัยที่สุดแล้ว
อาาห์ ใช่แล้วพิษมันไม่มีผลกับตัวผมหรอก เพราะผมมีทั้งสกิล [ต้านทานพิษ] และ [การดูดกลืน] มันก็เลยทำให้พวกนี้เป็นแค่ของหวานสำหรับผม แต่ผมรู้สึกได้ว่า ทั้ง 2 คนกลับนั่งจ้องผมด้วยความอิจฉา
เฮ้ย ๆ ถ้าพวกนายกินมัน พวกนายได้กลับไปเยี่ยมยมบาลเลยนะเฟ้ย รู้มั้ย ?
แปลโดย : Shiba Inu