Day 60 ฟาร์มเลเวลกับโครงกระดูก

ผมสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในพื้นที่ของสกิล【Sense Presence】 แม้จะผ่านไปเพียงแค่ 2 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน

【Sense Presence】ตื่นขึ้นมาเตือนผมอย่างบ้าคลั่งเมื่อเร็วๆนี้ เพราะผมมักจะเปิดใช้งานได้ก่อนที่จะนอนหลับไปเผื่อกรณีฉุกเฉินแบบนี้แหละ แต่บอกตามตรงเลยว่ามันน่ารำคาญมากๆ

ผมตั้งให้ตรวจจับเฉพาะพวกศัตรูเท่านั้น ตามปกติแล้วมันจะไม่ค่อยปลุกผมในยามกลางคืนเท่าไหร่เพราะมีพวกยามก้อบลินเฝ้าไว้อยู่ แต่คืนนี้ดูเหมือนมันจะมามากจนผิดปกติ

สำหรับช่วงเวลานี้ ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่พวกมนุษย์ เพราะเวลากลางคืนนั้นในป่าจะเป็นของพวกมอนสเตอร์โดยสมบูรณ์ มันคงไม่ง่ายนักถ้าพวกมนุษย์จะบุกมาโจมตีตอนนี้

ชื่อสายพันธุ์ที่แสดงขึ้นมาหลังจากผมเปิดสกิล [Mental Map] และ [Sense Presence] บ่งบอกว่าเป็นพวกโคโบลด์

ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะกลับมาแก้แค้น แต่.....ดูเหมือนผมจะคิดผิด

ผมเห็นโคโบลด์จากจุดแดงๆทั้งหมด 53 ตัวที่ปรากฏบน Mental Map และนอกจากนี้ยังมีจุดสีฟ้าอีก 38 จุดที่ไล่ตามหลังพวกมันมาส่วนที่ขอบจะมีจุดสีเทาขนาดใหญ่ ซึ่งบ่งบอกว่าสายพันธฺุ์เดียวกันจะมีสีเหมือนกัน แต่ดูเหมือนนี่จะมีสายพันธุ์ที่แตกต่างถึง 3 สายพันธุ์

ผมไม่รู้ว่าจุดที่เป็นสีฟ้าและสีเทานั้นคือพวกไหน แต่บอกได้เลยว่ามันค่อยๆทำให้จุดสีแดงลดลงไปเรื่อยๆทีละนิด

พวกโคโบลด์กำลังถูกไล่ล่า !?

เรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นตลอด ผมจึงไม่ค่อยอยากจะสนใจเท่าไหร่นัก

แต่มันต่างจากปกตินิดหน่อยเพราะพวกโคโบลด์มันแห่กันมาที่ถ้ำของพวกผมเนี่ย !!!

แม้ผมจะไม่ได้ต้องการแบบนี้ แต่ดูเหมือนสถานการณ์มันจะพาหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นผมจึงปลุกทุกคนขึ้นมาเตรียมอุปกรณ์และเตรียมพร้อมกับสำหรับการบุกรุก

พวกจุดสีฟ้าและสีเทานั้นฆ่าโคโบลด์ได้อย่างง่ายดาย พวกโคโบลด์รีบวิ่งมายังถ้ำของพวกเรา ในตอนนี้พวกมันเหลืออยู่เพียง 36 ตัวซึ่งรวมทั้งผู้หญิงและเด็กด้วย

ส่วนด้านหลังเป็นเหล่าโคโบลด์ผู้ชายที่พยายามต้านพวกจุดสีฟ้าเอาไว้ พวกจุดสีฟ้าคือเหล่าโครงกระดูกที่ติดอาวุธและชุดเกราะเต็มยศ พวกโคโบลด์ด้านหลังพยายามอย่างหนักที่จะชะลอให้พวกโครงกระดูกช้าลง

“….”

ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลย

เมื่อตอนยังอยู่ในดันเจี้ยน รีเทิร์นเนอร์บอกกับผมว่าที่ดันเจี้ยนของเวลเว็ทจะมีพวกทหารโครงกระดูกคอยเฝ้าอยู่ แต่ผมกลับไม่เห็นพวกมันเลย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกมัน นี่พวกมันหลุดออกมางั้นหรอ ?

ทำไมพวกมันมาอยู่ที่นี่......? ผมไม่มีเวลาคิดอะไรมากมาย เพราะพวกโคโบลด์ถูกไล่ฆ่าตายกันระนาว

ผมออกคำสั่งผ่านกำไลข้อมือให้ทุกคนเข้าโจมตีพวกโครงกระดูกด้วยหน้าไม้ก่อน

แทบไม่น่าเชื่อเลย ลูกธนูไม่ระคายผิวของพวกมัน แม้ว่าจะฟันเข้าที่หัวอย่างจังก็ยังเหมือนเดิมดูเหมือนจะเป็นสถานการณ์ที่รับมือยากซะแล้ว

ผมกลับมองเห็นโอกาสบางอย่างที่จะโชว์ความสามารถที่นี่

ผมเห็นว่าหน้าไม้ทำอะไรพวกมันไม่ได้ผมจึงสั่งให้กลุ่ม «Tirard» ถอยกลับมา แล้วให้กลุ่ม  «Patri» เข้าไปสนับสนุนแทน นำพวกโคโบลด์เข้าไปหลบบริเวณห้องขัง ซึ่งด้านในมีพวกก้อบจิคุงคอยให้การช่วยเหลือกลุ่มโคโบลด์อยู่

ผมอยากให้พวกเขาอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและพวกเขาจะปลอดภัยถ้าอยู่ที่นี่




พอเห็นว่าการโจมตีระยะไกลไม่ได้ผล ผมจึงสั่งกองกำลังหลักหน่วย «Revolution» และหน่วยอาวุธเบา «Red Surge» เข้าร่วมสู้กับโครงกระดูกพร้อมเหล่าหมาป่าดำ

อย่างไรก็ตามการฟาดฟันพวกโครงกระดูกนั้นทำดาเมจได้เพียงแค่เล็กน้อย มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากในช่วงแรก

แต่ทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงต้องขอบคุณ ฮ้อบซาโต้ เธอบอกว่าโครงกระดูกพวกนี้ต้านทานการฟันแต่ไม่สามารถป้องกันการกระแทกอย่างรุนแรงได้ 

ผมส่งต่อข้อมูลผ่านกำไลข้อมือให้กับทุกๆคน จากนั้นราวกับว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนแรกเป็นเพียงแค่ฝันร้าย พวกเราจัดการโครงกระดูกได้อย่างรวดเร็ว พอรู้ถึงจุดอ่อนของพวกมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอีกต่อไป

ด้วยขวานรบและโล่หอคอยขนาดใหญ่ของก้อบคิจิคุง เขาตัดผ่านร่างของพวกมันอย่างง่ายดาย ดูจากสายตาของเขาแล้วพวกโครงกระดูกมันทำให้เขารู้สึกสดชื่น

ก้อบเอะจังสวมชุดป้องกันและแบกพลั่วของเธอเหวี่ยงฟาดไปมาอย่างสนุกสนาน แต่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง เธอกระแทกไปที่หัวพวกโครงกระดูกไม่หยุด เสียงดังสนั่นราวกับกดระเบิด

ก้อบมิจังใช้ Failnaught's (ธนูเวทมนตร์ที่ได้จากพวกเอลฟ์) เสริมด้วยสกิล[Certain Hit] ยิงใส่พวกโครงกระดูกอย่างรวดเร็วราวกับปืนกล แม้ว่าจะไม่ระคายผิวของพวกมัน แต่เธอเพิ่มพลังให้กับหัวลูกศรเพื่อเพิ่มพลังการเจาะทะลุซึ่งทำให้ได้ผลดีเกินคาด พวกโครงกระดูกถูกโจมตีโดยไร้การป้องกันใดๆราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ

ฮ้อบเซย์ ใช้เวทย์ไฟของเธอเผาพวกมันจนเป็นเถ้าถ่านแน่นอนว่าเธอไม่ได้ใช้เวทมนตร์ทำลายล้างในวงกว้างเพราะมีพันธมิตรอยู่รอบตัว เนื่องจากการเลื่อนระดับของเธอทำให้เธอมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล พวกโครงกระดูกจึงไม่เป็นอุปสรรคใดๆแก่เธอเลย

สำหรับผมแล้วผมก็คงไม่มีปัญหาอะไร เราแตกต่างจากพวกโคโบลด์ พวกเรามีวิธีรับมือมากมายดังนั้นพวกเราจึงไม่ได้สูญเสียอะไรกับเหตุการณ์นี้เลย



การเพิ่มพวกหมีและเหล่าสัตว์เลี้ยงเข้ามาร่วมสู้ทำให้สถานการณ์ยิ่งสบายมากขึ้นกว่าเดิม ผมไม่คิดว่าผมจะต้องลงมือเอง แต่ดูเหมือนเหล่าโครงกระดูกมันกลับไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย

แม้จะมีโครงกระดูกมากมายถูกบดขยี้ภายในถ้ำแต่ในเวลาไม่นานพวกมันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ผมคิดถึงคำพูดของรีเทิร์นเนอร์ขึ้น

ในบรรดาพวกโครงกระดูกแล้ว มีโครงกระดูกบางพวกที่ถูกเรียกว่า  Greater Skeletons ซึ่งพวกนี้สามารถอันเชิญเหล่าโครงกระดูกธรรมดาได้ แถมนอกจากนี้พวกมันยังดูดซับมานาโดยรอบได้จากความมืดยามค่ำคืน โครงกระดูกส่วนใหญ่สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดูเหมือนคำพูดที่ดูโอ้อวดของเวลเว็ทจะเป็นเรื่องจริงซะแล้ว

"อาห์ ฉันคิดว่าฉันควรจะไปหาเจ้าหัวโจกนั่นซะหน่อยแล้ว "

อย่างไรก็ตามผมเปลี่ยนใจหลังจากพิจารณาว่า EXP ที่เราได้จากการจัดการพวกโครงกระดูกนี้มันก็ไหลมาเรื่อยๆเลยนินา !?

"นี่เป็นเวลาที่ดีสำหรับการอัพเลเวล !!! " ผมตะโกนดังลั่น

ผมส่งคำพูดให้ทุกคนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ แม้ว่าจะผ่านเที่ยงคืนมาไม่นานที่แต่เทศกาลกอบโกย EXP ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!

จุดสีเทานั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคือ หัวหน้าโครงกระดูก ซึ่งคอยปลุกเหล่าโครงกระดูกธรรมดาขึ้นมาเรื่อยๆ ดูเหมือนผมจะไม่ต้องเป็นห่วงจุดนี้เพราะมันไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย

หลายๆคนเริ่มสงสัยผมจึงตะโกนถาม "มีใครตายบ้างมั้ย ?" แต่หลังจากนั้นไม่นานดูเหมือนทุกคนจะเริ่มเคยชินกับการต่อสู้และแทบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย

มีความเป็นไปได้ที่ทุกคนจะเริ่มเหนื่อยล้า ดังนั้นผมจึงสั่งให้พวกเขาจับคู่กันและผลัดกันต่อสู้เพื่อฟื้นกำลัง

ผมนั่งแทะกระดูกกองใหญ่ขณะที่ผมกำลังเฝ้าดู สาวผมแดงเข้ามาพักระหว่างการต่อสู้เพื่อนั่งกินกับผม
สาวคนอื่นๆออกมาดูการต่อสู้ด้วยเช่นกัน ผมจึงถามพวกเธอเกี่ยวกับเศษกระดูกพวกนี้ว่าสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้างมั้ย

เห็นได้ชัดว่ากระดูกพวกนี้ถูกใช้เป็นส่วนผสม ไม่เพียงแต่มีคุณภาพสูงเท่านั้นแต่ยังหายากอีกด้วย ผมจึงจะเก็บบางส่วนลงใน item box คุณสามารถขายได้เป็นทองจำนวนมาก ผมหวังว่าผมจะหาแหล่งขายกระดูกพวกนี้ได้เร็วๆ

ความสามารถ: 【 Slashing Resistance 】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【 Piercing Resistance 】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Weakness to Sunlight】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Weakness to Crushing】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Nullify Critical Hits】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Tireless】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【 Bone Union 】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Joint Magic】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Equipment Materialization】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Evil Miasma of Life】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【 Absorb Magic 】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Nullify Negative Status Effects】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Cold Attack Nullification】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Thunder Attack Nullification】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Acid Attack Resistance】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Weakness to Light Damage】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Weakness to Holy Damage】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Weakness to Fire Damage】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【 Anaerobic 】เรียนรู้แล้ว

ผมนั่งกินกระดูกเป็นตัน ดังนั้นความสามารถที่ได้มีความสามารถที่ไร้ประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาถ้าผมไม่เปิดใช้งาน

ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงนับตั้งแต่เราเริ่มต่อสู้ เกือบจะถึงเวลารุ่งสาง ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีและยกระดับขึ้น ดังนั้นผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะจบงานเทศกาลนี้แล้ว

ผมอยากที่จะนอนเต็มแก่แล้วตอนนี้

ใช่! ผมตัดสินใจแล้วว่าผมกำลังจะยุติเทศกาลนี้ผมพุ่งเข้าไปหาพวกมัน ฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆด้วยแขนเงินและหอกแดงประจำกาย ทางด้านขวาของผมมีขวานสีดำขนาดใหญ่เหวี่ยงลงมาที่หัว ผมเห็นดังนั้นจึงปัดด้วยหอกสีแดงและแทงทะลุร่างของมันด้วยแขนเงิน

หัวหน้าโครงกระดูกมีขนาดใหญ่กว่าตัวปกติถึง 2 เมตร และใช้ดาบขนาดใหญ่แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ถูกผมทุบลงที่หน้าอกอย่างรุนแรงด้วยแขนเงินของผม และจบงานเทศกาลนี้ลง




หัวกระโหลกของมันยังคงทำเสียงงึมงำบางอย่าง แน่นอนผมกัดมัน กินมันทุกส่วนจนถึงกระดูกชิ้นสุดท้าย

ตามที่คาดหวังของสายพันธุ์ชั้นสูงคุณสามารถได้รับประสบการณ์มากมายโดยการทำลายมันและรสชาติของมันก็ไม่เลวเลย



ความสามารถ: 【Lesser Summoning: Undead】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Greater Equipment Materialization】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Negative Energy】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Lesser Damage Reduction】เรียนรู้แล้ว

ความสามารถ: 【Lesser Magic Damage Reduction】เรียนรู้แล้ว

ตอนแรกผมคิดว่า "พวกโคโบลด์นี่กล้ามากที่นำปัญหามาให้กับพวกเรา" แต่ตอนนี้ผมเห็นพวกเขาเป็นสุนัขที่นำของขวัญมาให้เรา

อย่างไรก็ตามในขณะที่คลีลิคก้อบจิคุงกำลังเมามันรักษาโคโบลด์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสผมก็จบการรักษาส่วนที่เหลือของโคโบลด์และให้ยาเพื่อให้พวกเขานอนหลับ มันจะลำบากถ้าพวกเขาทำร้ายเราในขณะที่เรานอนหลับ

พวกเราเหนื่อยอย่างมากกับงานเทศกาลและจึงแยกย้ายกันไปเข้านอน

พอถึงช่วงเย็นของอีกวันผมตื่นขึ้นมาเจอกับพวกโคโบลด์และโคโบลด์ฟูทแมนที่มาพร้อมกับเครื่องป้องกันและหอกข้างกายคอยอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

ผมจับใจความได้ดังนี้ พวกโคโบลด์อาศัยอยู่ในถ้ำเช่นเดียวกับพวกเราและพวกเขาก็ทำการขยายพื้นที่

→ พวกเขาอาศัยอยู่โดยการล่าสัตว์ในป่าและภูเขา ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาฆ่าออคและได้รับพลั่วเหล็ก

→ โคโบลด์ผู้หญิงทำงานในการขยายบ้านของพวกเขาโดยการขุดในขณะที่ผู้ชายล่าหาอาหาร

→ พวกเขาสามารถปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยได้ พวกเขามีความสุขที่พวกเขาสามารถขยายพื้นที่อาศัยได้

→ ขณะที่พวกเขากำลังขยายออกไปพวกเขาก็เจอกับดันเจี้ยนของเวลเว็ท

→ พวกโคโบลด์ไม่เข้าใจว่าดันเจี้ยนเป็นอย่างไร พวกเขาตัดสินใจว่าผู้ชายจะตรวจสอบในอีกวันขณะที่พวกเขากำลังปิดปากรู พวกโครงกระดูกก็แห่ทะลักออกมาในเวลากลางคืน

→ พวกเขาถูกบังคับให้หลบหนี

→ ความเมื่อยล้าจากการต้องรับมือกับพวกโครงกระดูกเร็วๆนี้ลุกลามไปไกล โคโบลด์บางส่วนพยายามที่จะสู้กับพวกมันและพวกเขาถูกฆ่าตายอย่างไร้ความปราณี

→ ดังนั้น...พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะวิ่งมาที่ถ้ำของพวกโอเกอร์ พวกเขาทั้งหมดกำลังจะตายจึงวิ่งมาในถิ่นของเราเพื่อหวังจะขอความช่วยเหลือจากพวกโอเกอร์

→ พวกเขารู้ว่าอาจถูกสังหารโดยพวกโอเกอร์

→  ผู้นำของพวกเขาประกาศว่า "ไม่ว่าจะวิธีไหน พวกเราก็แทบจะไม่เหลือทางรอดแต่อย่างน้อยก็ต้องลองดูซักหน่อย"

→ รายละเอียดส่วนที่เหลือก็ตามที่คุณเห็นด้านบน

… พวกมึ*นี่มัน ?

อืม ... ไม่เป็นไร ... ตราบใดที่ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วก็ไม่เป็นไร

เมื่อพวกเขาเล่าทุกอย่างจบ ผมทำท่างุนงกและเรียบเรียงเล็กน้อย ส่วนพวกโคโบลด์นั่งคุกเข่ารออยู่ต่อหน้าผมเพื่อขอให้ผมรับพวกเขาเป็นลูกน้อง

โคโบลด์ฟูทแมนนั้นเป็นขั้นที่พัฒนามาจากโคโบลด์ปกติซึ่งพื้นฐานมาจากพวกนักรบหรือซามูไร ส่วนใหญ่ผมฆ่าแต่พวกโคโบลด์ปกติดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องใหม่ที่ผมเพิ่งรู้เร็วๆนี้

"บางครั้งเราก็กินพวกเดียวกันเอง เป็นเรื่องปกติที่คนแข็งแกร่งย่อมกินคนอ่อนแอ และซักวันนึงก็อาจจะกลายเป็นอาหารให้กับผู้แข็งแกร่งอย่าง "นายท่าน"

ใช่แล้ว นายท่าน...

ผมถูกเรียกว่า "หัวหน้า" โดยปกติจากพวกโคโบลด์ แต่ว่ากับเจ้าโคโบลด์ฟูทแมนเขาเรียกผมว่า "นายท่าน"

ชีวิตที่เหลือรอดชีวิตที่คุ้มค่าในการตอบแทนนี่คือสิ่งที่พวกเขาเชื่อและนั่นคือทั้งหมดที่พวกเขามีให้

พวกเขายินดีที่จะมอบชีวิตให้ถ้าหากใครบางคนในพวกเขาทรยศต่อนายท่านของเขา นี่คือสิ่งที่เขาประกาศออกมา

ตามปกติแล้วไม่น่าจะมีใครเชื่ออะไรแบบนี้ แต่พอมองไปที่ดวงตาของเขามันกลับบ่งบอกว่าเป็นดวงตาที่ซื่อสัตย์

ผมตัดสินใจที่จะเตรียมความพร้อมบางสิ่งบางอย่างในกรณีที่พวกเขาพยายามอะไร ผมเปิด item box และหยิบอุปกรณ์เวทมนตร์ขึ้นมากินมันทั้งหมด

ความสามารถ: 【 Enslave 】เรียนรู้แล้ว

ของที่ผมกินถูกเรียกว่า "ปลอกคอทาส" ซึ่งเป็นของนักผจญภัยที่เสียชีวิตใน "Velvet's Dungeon"
มันเป็นความสามารถที่มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ ผมพยายามที่จะนึกว่าทำไมผมถึงไม่ใช้พวกมันก่อนหน้านี้

อ้อดูเหมือนผมจะจำได้แล้ว ผมพยายามที่จะกินมันเมื่อนานมาแล้วแต่ดูเหมือนรสชาติของมันจะห่วยแตกมากๆจนต้องเลิกไปก่อน

ผมไม่รู้สึกเนื้อสัมผัสใดๆ พื้นผิวของมันเหนียวและเนื้อหนังมีความแข็งกระด้าง ยิ่งผมเคี้ยวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกคลื่นใส้ นอกจากนี้ยังได้ลิ้มรสเปรี้ยวและเผ็ด ซึ่งผมบอกได้เลยว่ารสชาติของมันแย่ราวกับฝันร้ายเลย

เป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้กินอะไรที่รสชาติแย่ขนาดนี้ แต่พอถึงเวลาจำเป็นคุณต้องก็จำใจทำอย่างเลี่ยงไม่ได้

ตอนนี้ผมมีความสามารถ [Enslave] เป็นความสามารถในการป้องกันการทรยศ ความสามารถนี้จะไม่ทำอันตรายใดๆแก่ผู้ออกคำสั่ง ผมน่าจะเริ่มผลิตอุปกรณ์สื่อสารแบบข้อมือที่มีความสามารถนี้บ้างแล้ว

ส่วนพวกโคโบลด์พวกนี้ผมค่อยคิดตอนเช้าละกันว่าจะทำอย่างไรกับพวกเขา ตอนนี้ก็ให้พวกเขาพักอยู่ในห้องขังไปก่อน

พวกโคโบลด์เชื่อฟังผมอย่างน่าแปลกใจ ผมรู้สึกว่าผมไม่ควรจะลงมือหนักกับพวกเขามากเกินไปในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้......ผมควรจะฆ่าพวกเขาทิ้ง หรือจะรับพวกเขาเป็นสมาชิกดี ?