Day 1 การกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

เรื่องมันก็เริ่มมาจาก ผมถูกสโตกเกอร์ฆ่าตาย ผมคิดกับเธอเป็นเหมือนน้องสาวตัวน้อยแท้ๆ แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมน่ะ เกิดใหม่เป็นที่เรียบร้อยไปละ..

โว้วว เหลือเชื่อไปเลยใช่ไหมล่ะ แต่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ เรื่องที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง อาจจะคิดว่าสติผมไม่ปกติล่ะสิ หลังจากเจอกับเหตุการณ์อะไรแบบนั้นมา แต่เดี๋ยวก่อนน...!! อย่าเพิ่งวิจารณ์อะไรตอนนี้ จนกว่าจะได้ฟังเรื่องทั้งหมดจนจบ อย่าเพิ่งขัดจังหวะผมล่ะ.... อะแฮ่มม เอาล่ะผมจะเริ่มเล่าตั้งแต่แรกเลยละกัน


อย่างแรกเลยเริ่มจากชื่อผมก่อน ผมเคยใช้ชื่อว่า [โทโมคุอิ คานาตะ]  เรียกแบบนี้ไปก่อนละกันเพราะตั้งแต่เกิดใหม่เนี่ยยังไม่มีชื่อกับเขาเลย 


ถึงตอนนี้ความทรงจำผมมันจะเหลือน้อยลงทุกที แต่ผมจำได้ว่า หลังจากทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว เพื่อนร่วมงานบางคนก็ได้ชวนไปดื่มต่อ โอเคผมตกลงและเราก็พากันไปที่ร้านเหล้า 


เป็นเพราะพรุ่งนี้คือวันหยุดด้วยล่ะมั้ง พวกคออ่อนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเมาจนไปทำงานไม่ไหว พวกเราเลยดื่มกันทั้งคืนและจบลงที่ผมต้องหิ้วปีกเธอกลับบ้าน ก็เธอดันเล่นดื่มไปซะขนาดนั้น เฮ้...แต่ผมปล่าวมอมเธอนะ เธอมอมตัวเองตะหากเล่าา


เธอหลับไปเรียบร้อยแล้ว ผมปล่อยให้เธอนอนสบายๆและไม่คิดจะปลุกเธอ ด้วยนิสัยที่ว่ารักการดื่มเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงมากกว่าเธอด้วยซ้ำ การกระดกเบียร์พร้อมกับนั่งมองพระจันทร์ อาาห์ ว่าแล้วก็ลองไปหาอะไรในตู้เย็นดูดีกว่า


ตู้เย็นที่ควรจะมีเหล้าและกับแกล้มหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ผมเมาต่อได้ มัน.....ไม่มีอะไรอยู่เลย


เมื่อวานผมจัดการพวกมันไปหมดแล้วและคิดว่าจะซื้อมาเติมให้เต็มเหมือนเดิม.....บ้าจริง ถ้าไม่ได้มาเจอเจ้าหล่อนชวนไปดื่มซะก่อน 


มันทำให้ผมลืมมันไปซะสนิทเลย


ใช่แล้ว , นี่มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของผมเลย ที่ผมจัดการดื่มมันหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน

ถ้าผมเหลือมันไว้ซักขวด ก็คง....

ไม่...ไม่ ขอเร่งบทสนทนาให้เร็วขึ้นนิดนึงละกัน


ผมก็แค่อยากจะกินต่อทั้งคืน ก็เลยออกไปเบียร์มา 5 ขวด จากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆที่เปิด 24 ชั่วโมง แล้วก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที


ฤดูร้อนเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว แต่คืนนี้ก็ยังคงหนาวอยู่ พระจัทร์เต็มดวงเวลาท้องฟ้าเปิดแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบแฮะ


แม้แสงจัทร์จะถูกเมฆบังแต่ก็ยังสวยงาม เอาจริงๆแม้จะเป็นเบียร์ราคาถูกจากร้านสะดวกซื้อแต่การดื่มใต้แสงจันทร์แบบนี้มันไม่ได้หาได้ง่ายๆเลยนะ


ในขณะที่กำลังนึกถึงรสชาติเบียร์อันหอมหวาน ผมก็เห็นบางอย่าง ไม่สิ เห็นสาวสวยยืนใต้แสงไฟริมถนน และพอมองหน้าดีๆ ผมจำได้ทันทีเลยว่า เธอคือบุคคลที่คนทั่วไปเรียกว่า "สโตกเกอร์"


สโตกเกอร์ของผม เธอมีชื่อว่า [คิริมิเนะ อาโออิ] เรียนอยู่วิทยาลัยแถวๆนี้แหละ เธออายุ 20 น้อยกว่าผม 5 ปี คิดว่านะ..


ความสัมพันธ์ของพวกเราอะหรอ ก็อย่างที่เห็นน่ะแหละ จะบอกว่าธรรมดาก็คงจะไม่ใช่


สมัยผมอยู่ ม.ปลาย ปี 3 ผมเจอพวกนักเลงกำลังรังแก ผู้หญิงคนหนึ่ง มารู้ทีหลังว่าเธอคือ อาโออิ ตอนนั้นเธอน่าจะอายุ 12 หรือ 13 ผมเข้าไปช่วยเธอจากพวกนั้น อาจเป็นเพราะโชคชะตาล่ะมั้ง แต่ถึงจะบอกว่าช่วย ก็ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ว่านั่นคือการช่วยเธอ


พอมาเทียบกับผมในตอนนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกไก่อ่อน ขี้ขลาดเลยทีเดียว...


มีผู้หญิงหนึ่งคนโดนรังแก แต่ทุกคนที่เดินผ่านกลับมองไม่เห็นซะอย่างนั้น


ในฐานะที่เป็นผู้มี ESP [Esper = คนที่มีพลังจิต มีพลังวิเศษ] ทางเลือกของผมคือ เข้าไปช่วยเธอ หรือ จะโกยให้ไวที่สุด


ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ ผมเพิ่งได้ของขวัญวันเกิดจากลุงเป็น Nightstick [กระบองคล้ายๆของพวกตำรวจ] พอดี เป็นลุงผู้ชื่นชอบในการสะสมอาวุธเอามากๆ เขาทำงานในบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับกองทัพ เพราะงั้นจึงไม่ยากเลยถ้าจะเอามาเป็นของขวัญวันเกิดให้ผม


บริษัทที่ลุงของผมทำงานเป็นบริษัทลูกของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ชื่อว่า Avalon ก็บริษัทนี้แหละทีเป็นคนผลิตกระบองอันนี้ให้ผม ชื่อเสียงของบริษัทนี้มันกระฉ่อนระดับจักรวาลเลยทีเดียวเชียว 


ตอนแรกผมไม่กล้าที่จะนำมาใช้หรอกนะ อาจเพราะมันเป็นอาวุธอันตราย เพราะงั้นผมเลยเก็บมันไว้ในห้องนอนเฉยๆ


จนคุณ [โอตะ] เพื่อนของลุง บอกว่าอยากจะดูกระบองอันนี้หน่อย ก็เลยนัดเจอกันและระหว่างที่ผมกำลังไปที่นั่นก็ มาเจอกับเหตุการณ์นี้พอดี


ถึงผมจะเป็นคนขี้ขลาด แต่สถานการณ์แบบนี้ก็ต้องเข้าไปช่วยล่ะนะ ผมยังจำความรู้สึกตอนเป็นแสงสว่าง เข้ามาช่วยเหลือสาวน้อยจากอันตรายได้อยู่เลย


ผมเข้าไปจัดการพวกนั้นจากด้านหลัง ผมรู้ว่าพวกนั้นจะต้องโมโหมากๆ แต่ช่างมันเถอะ ในเมื่อตอนนี้พวกนั้นลุกขึ้นมาไม่ไหวจากแรงกระแทกของกระบองผมนี่แหละ ทั้งๆที่ซัดไปไม่กี่ที่เอง แต่พวกนั้นกลับลงไปนอนน้ำลายฟูมปากอยู่กับพื้น ผมจึงรีบคว้ามือเธอที่กำลังตกใจ และหนีออกจากตรงนั้น


ตอนนั้นผมยังเด็กมากจริงๆ เลยทำเรื่องน่ากลัวกับพวกนักเลงนั่นไประหว่างที่ช่วย อาโออิ 


หลังจากที่ผมช่วยเธอ เธอก็ชอบผมมากขึ้นเรื่อยๆมันเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ จนท้ายที่สุด อาโออิ ก็กลายเป็น สโตกเกอร์ของผม


จนผมเข้ามาทำงานที่ปัจจุบัน ผมก็คิดได้ว่า ต่อให้เป็นดาวดวงอื่น ถ้าผมไปทำธุระที่นั่น เธอก็จะตามไปตลอด


เมื่อคุณจะจัดการกับสโตกเกอร์ คุณควรจะพูดคุยกันแบบธรรมชาติว่าไอที่พวกเขาทำอยู่เนี่ย มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแล้วนะ


เอ่อ... เหมือนเราจะออกทะเลมาไกลแล้ว แต่ถ้าไม่เล่าขนาดนี้ พวกคุณก็จะไม่เคลียร์ว่าผมตายได้ยังไง


เอาล่ะ มาต่อจากเดิม หลังจากผมซื้อเบียร์ ผมก็เจอ อาโออิ ระหว่างทางกลับบ้าน มันน่าจะดีกว่านี้นะถ้าเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ.... พอมองลงมาจากไฟริมถนน ที่ส่องร่างของอาโออิ เหมือนผมจะเห็นออร่าสีดำแผ่ออกมาจากตัวเธอ จริงๆมันควรจะเป็นลูกหมาน่ารักๆสิแต่นี่.....ทำผมมองคอเอียงด้วยความสงสัย


ถึง อาโออิ จะเป็นสโตกเกอร์ แต่ผมก็คิดว่าเธอเป็นน้องสาวที่น่ารักเสมอ แต่วันนี้มันแปลกๆแฮะ


ผมเรียกเธอ แต่ไม่มีการตอบกลับใดๆกลับมา มีเพียงหน้าเศร้าๆของ อาโออิ


ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เลยเดินเข้าไปถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่ทันจะถามก็โดนมีดกระซวกที่ท้องน้อยเข้าให้ อาาห์ ใช่แล้วผมโดนแทงด้วยมีดที่ซ่อนไว้


ถึงร่างกายผมจะแข็งแรง และมีพลังฟื้นฟูขั้นสูง แต่ก็รู้สึกปวดจากมีดที่เข้าไปหมุนคว้านอวัยวะภายใน


ผมคิดว่าผมคงไม่ตายง่ายหรอกนะ ถ้ามีดมันทำมาจากวัสดุธรรมดา แต่ที่อาโออิแทงเข้ามามันเป็น [เนเนะคากุริ] น่ะสิ นี่มันมีด Rank-B ชัดๆ ที่เสริมคุณสมบติของสายฟ้าเข้าไป ผลิตโดยบริษัท [SAKUMA Heavy Industries] แต่ที่เจ็บใจกว่านี้คือมันเป็นสินค้าที่วางขายโดยบริษัทลุงผมเองนี่แหละ หลักการง่ายๆของมีดนี้ ก็คือการตัด โมเลกุลเดี่ยว ออกจากกันโดยใช้พลังไฟฟ้าแรงสูง ใบมีดเล็กๆนับพัน หมุนคว้านรวดเร็วราวกับเลื่อยไฟฟ้า ยัง ยังไม่พอ ถ้าโดนมีดนี้ทิ่มเข้าให้ เหยื่อจะถูกพลังไฟฟ้าช็อตจนเป็น อัมพาตชั่วขณะ เพราะแบบนั้นคนที่ใช้จึงมีแต่พวกทหาร


ยังไม่ทันจะคิดว่าเธอได้มีดเล่มนี้มายังไง ผมก็ถูกเธอกดลงไปนอนกับพื้นซะแล้ว หนำซ้ำเธอยังขึ้นคร่อมแล้วแทงซ้ำไปซ้ำมา จนผมอาเจียนออกมาเป็นเลือด มันพุ่งออกมาไม่หยุดเลย รูที่ร่ายกางของผมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

ทุกครั้งที่มีดตัดร่างของผม ผ่านเนื้อและกระดูก ผมบอกได้เลยว่าเลือดมันพุ่งสาดกระเซ็นออกมาทุกที่เลยล่ะ

ที่ผมบอกได้ก็เพราะ ผมเห็นร่างบางๆของ อาโออิ ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงนี่แหละ


ถึงร่างกายของผมจะถูกสร้างให้แข็งแรงเกินกว่าคนปกติ แต่ด้วยหน้าที่การงาน ผมกลับมาตายเพราะฝีมือของ อาโออิ เนี่ยนะ เธอเป็นแค่พลเมืองธรรมดาเอง ทำเอาผมรู้สึกผิดหวังนิดๆเลยแฮะ แต่....

พลเมืองธรรมดาแล้วยังไง? ถึงผมจะแปลกใจกับความอะเมซิ่งของมีดเล่มนี้เอามากๆ แต่มันมากพอที่จะตัดร่างกายอันแข็งแกร่งแบบผมได้จริงๆหรอ? เธอทำให้ผมล้มลงโดยการแทงทีเผลอ? และตอนนี้ผมก็เป็นอัมพาตจากไฟฟ้าแรงสูงเนี่ยนะ ? เห้ยๆเอาจริงดิ?

ทำไมกันนะ....เรื่องแบบนี้ มันช่างน่าเศร้าจริงๆ


ยังไงก็ตาม ผมตายโดยน้ำมือของ อาโออิ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นแผลที่ไม่สามารถรักษาได้แม้จะปลูกฝังสุดยอดการฟื้นฟูก็ตาม


สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือ มีดมันพุ่งเข้ามาที่ลูกตาของผม ซึ่งแปลว่ามันอยู่ใกล้กับสมองมากๆ อวัยวะเดียวที่ไม่สามารถฟื้นฟูหรือเกิดใหม่ได้ มันกำลังถูกทำลายโดยสมบูรณ์ สติผมค่อยๆเลือนหายไปสู่ความมืด


แต่มันยังไม่จบแค่นี้ การกลับชาติมาเกิดใหม่ยังไม่ได้เริ่มเลย


สติ สัมปชัญญะของผมอยู่ครบและไม่มีอะไรเปลี่ยนไปซักนิดเดียว ผมยังจำฉากสุดท้ายก่อนหมดสติได้ดี แต่ทำไมผมยังไม่ตายล่ะ ? หรือมันเป็นแค่ความฝัน ผมดื่มมากไปหรอเนี่ย......ผมปฏิเสธความคิดชั่วขณะ คำตอบมันขัดแย้งผสมปนเปกันไปหมด


ผมมั่นใจว่าผมตายไปแล้วแน่ๆ ผมยังจำความเจ็บปวดตอนกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านเส้นเลือด ความเย็นของใบมีดที่เฉือนหน้าอกของผมได้ดี มันไม่ใช่ภาพลวงตาแน่ๆล่ะ แต่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมอยากรู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น พอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของผมก็เปิดออก




เหมือนผมจะเห็น อะไรซักอย่างที่โคตรอัปลักษณ์ มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องการกลับชาติมาเกิดแฮะ มันอาจจะเป็นคำตอบเรื่องที่ผมสงสัยก็ได้ แต่....โอ้ว ขอโทดที ตอนนี้ผมรู้สึกง่วงมากๆ แต่มันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ พรุ่งนี้ผมจะมาต่อแน่นอน

แต่นี่มัน.....ไม่ใช่ความมืดหลังความตาย ผมแค่เหนื่อยนิดหน่อยแค่นั้นเอง........


แปลโดย : Shiba Inu