Day 49 Ogre Kichi !!!

เมื่อผมตื่นขึ้นมาก๊อบคิจิคุงได้รับการจัดอันดับขึ้นและกลายเป็นโอเกอร์

เป็นเพราะเขาสามารถฆ่าหมีได้ด้วยตัวคนเดียวเมื่อเร็วๆนี้ ผมคิดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นและมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดหวังเอาไว้

เขานั้นไม่ได้เป็นสายพันธ์ปกติ แต่กลับเป็นสายพันธ์พิเศษเช่นเดียวกับผม ผิวของเขาเปรียบโลหะสีแดงเข้ม

สีของลำตัวคล้ายกับหมีแดง ผิวสีแดงของเขาเป็นหลักฐานว่าได้รับพรและกันปกป้องจากเทพแห่งเพลิง [Demigod of Fire's Divine Protection]

ผมถามเขาว่าหายใจเป็นไฟได้มั้ย แต่ดูเหมือนเขากำลังพ่นไฟให้ดูเลยแฮะ

คงเป็นเพราะเขามักจะใช้หินไฟกับขวานของเขาอยู่เป็นประจำ [Decapitating Axe of Demonic Heat] ที่ได้จากคลังสมบัติของ Velvet 

นอกเหนือจาก [Demigod of Fire's Divine Protection] แล้วเขายังมี  [Demigod of War's Divine Protection] เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ปู่ก๊อบลินเล่าให้ฟังพร้อมกับตบไปที่แขนเบาๆของก๊อบคิจิ

"การได้รับการสนับสนุนจากพรของพระเจ้าทั้งสองเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ?" ผมถามปู่ก๊อบลิน แต่ปู่ตั้งข้อสังเกตุว่า "กลุ่มของนายมันชักจะผิดปกติเข้าไปทุกทีแล้วนะ"

"เฮ้ ก๊อบคิจิ นายพร้อมจะงัดกับฉันซักตั้งมั้ยล่ะ" ผมถามเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผลจากการที่เขาเป็นโอเกอร์ในตอนนี้ ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งอย่างมาก



เขามีความสูง 2 เมตร 80 ซม. สูงกว่าผม 30 ซม. ด้วยผิวที่สั่นสะเทือนและกล้ามเนื้อ ส่วนรายละเอียดพื้นฐานของเขานั้นแข็งแกร่งโดยที่ไม่ต้องมีความสามารถช่วยได้เลย โดยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้มันเหมือนกับจะทะลุผ่านเนื้อของเขาออกมาซะให้ได้

ผมได้เพิ่มความสามารถของร่างกายของผมโดยใช้ [Absorption] และผมไม่คิดว่าผมจะแพ้ก๊อบคิจิคุง ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นสายพันธ์พิเศษไปแล้วก็ตาม แต่อย่างที่บอกก๊อบคิจิคุงนั้น โคตรจะแข็งแกร่งเลย
ทั้งความแข็งแกร่งและความอึดนั้นเหนือกว่าผม

ถ้าเทียบจากสเตตัสพ้อยของผมมันเป็นพวกแบบเก่งทุกด้าน ดังนั้นพ้อยแต่ละช่องจึงไม่แตกต่างกันมาก ตรงกันข้ามกับก๊อบคิจิที่เพิ่มเฉพาะในส่วนของการต่อสู้เป็นหลัก ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดถ้าคุณมองไปที่กล้ามเนื้อของเขา แต่ที่กล่าวมาผมก็ยังคงเหนือกว่าเขาในแง่ของการต่อสู้มือเปล่าและเทคนิคต่างๆ

มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเอามากๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก๊อบคิจินั้นกลายเป็นคู่ปรับของผมเรียบร้อยแล้ว
ผมเอาชนะเขาได้อย่างฉิวเฉียดจริงๆ เราได้ให้การจับมือกันอย่างแน่นแฟ้นกับการพูดคุยแบบตัวต่อตัว

ตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นแค่ตัวเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง แต่เขากลับพัฒนาขึ้นมาได้เกินกว่าที่ผมคาดไว้มาก
เขาได้กลายมาเป็นมือขวาของผม กลายเป็นบุคคลที่ผมไม่สามารถขาดไปได้แล้ว

เพื่อแสดงความยินดีที่เขา Rank Up ผมได้มอบชุดสวมใส่ชุดใหม่แก่เขา อาวุธของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปใช้อันใหม่ มันยังคงเป็นขวานเวทมนต์ [Decapitating Axe of Demonic Heat] เช่นเดิม แต่เมื่อเทียบกับตอนที่เขาเป็นฮ้อบก้อบลิน มันหนักเกินไปถ้าหากเขาไม่ได้จับไว้ทั้งสองมือ แต่เนื่องจากตอนนี้เขากลายเป็นโอเกอร์ เขาสามารถถือมันได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ผมจึงให้ไอเทมอีกชิ้นจากคลังสมบัติของ Velvet 
นั่นก็คือโล่ขนาด [Black Ogre's Chopping Board] เป็นโล่ที่มีคลาสไอเทมระดับ [Ancient] เช่นเดียวกับขวานของเขา

โล่ยักษ์นี้มีความสามารถ [ลดน้ำหนักเมื่อสวมใส่] [สะท้อนการโจมตี] และ [ไม่มีวันเสียหาย] 

ชุดเกราะของเขาทำขึ้นจากด้ายของผมและขนของหมีภูเขารวมถึงสิ่งอื่นๆที่ค้นพบได้จากคลังสมบัติของ Velvet หลายๆส่วนถูกแทนที่ด้วยไอเทมระดับ Unique และถูกปรับแต่งให้เข้ากับก๊อบคิจิคุง

ใช่แล้ว มันทำให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ! มือของเขากวัดแกว่งขวานไปมาราวกับเหวี่ยงกิ่งไม้เล่นๆ ขนาดตัวที่ใหญ่ตัวและโล่สีดำทมิฬขนาดยักษ์ ถ้าผมเป็นแค่มนุษย์คนนึงผมคงไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาแน่นอน

อย่างไรก็ตามหลังจากวุ่นอยู่กับการแต่งตัวให้กับเขาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ผมใช้เวลาว่างที่เหลือไปกับการทำงานหลายๆอย่าง 

พวกเอลฟ์ที่ยังไม่ยอมจำนนต่อความต้องการทางเพศพวกเขาจึงยังต้องอยู่ในคุกต่อไป มันอาจจะเป็นเพราะความภาคภูมิใจของพวกเขา ทำให้พวกเขาปราบปรามความปรารถนาของพวกเขาได้

เพราะเป็นแบบนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ปู่ก๊อบลินแวะมาที่นี่ทุกๆ 1 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพักเลย

"ปู่จะหื่นไปไหนเนี่ย !!"