Day 28 ย้ายสู่เหมือง

พวกเธออาจจะระบายจนเหนื่อยและหลับไป แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกบางส่วนได้กลับมาบ้างแล้ว เมื่อผมมาดูพวกเธออีกทีตอนเช้า สาวผมแดงทักทายผมด้วยท่าทางร่าเริง แต่อีก 4 คนยังดูหวาดกลัวผมอยู่ ทำไงได้ล่ะผมช่วยอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้หรอกนะ เวลาคงจะช่วยให้พวกเธอปรับความเข้าใจได้ดีขึ้น

ในบรรดาของที่ถูกขโมยมามีเครื่องครัวรวมอยู่ด้วย ผมจึงใช้เครื่องมือเหล่านั้นทำสตูว์ให้พวกเธอทาน ดีเลยนี่เป็นการทำอาหารครั้งแรกของผมในแบบฉบับคนมีอารยธรรม มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุข ไม่อยากจะโม้เท่าไหร่หรอกนะแต่สตูว์ที่ผมทำนี่รสชาติมันใช้ได้เลยล่ะ 

การทานอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการรักษาและอาหารที่อร่อยนั้นจะช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณที่หายไปให้กลับมาเป็นปกติ
เมื่อพวกเธอทานอาหาร ผมเริ่มเห็นท่าทีของพวกเธอสงบลง ผมเริ่มที่จะได้ยินเกี่ยวกับลายละเอียดมากขึ้น หากมีอะไรที่พอจะช่วยเหลือพวกเธอได้อีกผมก็จะทำมัน


ผมจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเธอให้มากขึ้น เพราะงั้นผมจึงนั่งฟังพวกเธอคุยกันในขณะที่กำลังทานอาหาร
ผมลืมพูดถึงคนอื่นๆไปเลย นอกเหนือจากสาวผมแดงแล้ว คนอื่นๆมีอาชีพเกี่ยวกับการค้า [Job - Peddler] ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบนี้ผมเริ่มถามทีละคน หนึ่งในนั้นมีอาชีพ [Appraiser - นักประเมินราคา] เช่นเดียวกับ [Blacksmith]เธอมีความสามารถคล้ายๆกัน
เธอสามารถเพิ่มความคมของดาบสั้นและดาบยาวได้ ถ้าหากผมจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่านี้ให้เธอ เธอรับปากว่าจะอัพเกรดอุปกรณ์ให้แก่ผม

สองสาวที่ดูเหมือนจะเป็นฝาแฝด และทั้งคู่มีอาชีพ [Tailor - ช่างตัดเย็บ] / [Cook - แม่ครัว] ดังนั้นผมจึงจัดให้พวกเธอดูแลเกี่ยวกับการทำอาหารและการทำเสื้อผ้าในอนาคต
ผมบอกไม่ได้ว่าเธอจะทำเสื้อผ้าให้กับก๊อบลินที่เป็นศัตรูของพวกเธอมั้ย
ดังนั้นผมจึงบอกให้เธอทำเสื้อผ้าสำหรับตัวเองไปก่อน และคนสุดท้ายเป็นผู้หญิงที่ดูฉลาดและดูเย็นชา เธอมีอาชีพเป็น [Alchemist - นักปรุงยา] ดังนั้นผมจึงถามเกี่ยวกับพวกยารักษาต่างๆได้


ผมควรจะหาใครซักคนมาคอยดูแลพวกเธอ มันคงไม่ดีแน่ๆถ้าหากพวกเธอจะเสิร์ฟอาหารที่ใส่ยาพิษมาให้พวกเราทาน
สาวผมแดงยังมีอีกความสามารถหนึ่ง นั่นคือการทำฟาร์ม แต่พูดตามตรงมันยังไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจให้เธอออกไปฝึกร่วมกับคนอื่นข้างนอกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
ผู้หญิงจะต้องสามารถป้องกันตัวเองได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบเดียวกับที่พวกเธอเคยเจอมาก่อน

หลังจากทานอาหารเสร็จ , เราจะได้ดำเนินการต่อด้วยการฝึกอบรมและแผนกำหนดการที่วางไว้ แต่ว่าวันนี้แต่งต่างไปซักเล็กน้อย พวกเรารวบรวมข้าวของทั้งหมดและเตรียมที่จะย้ายออกจากถ้ำ
ถ้าหากคุณสงสัยว่าทำไม ? ก็เพราะว่าถ้ำที่อยู่ในปัจจุบันมันเล็กเกินไปสำหรับทุกคน จนถึงตอนนี้มีก๊อบลินเกิดใหม่เยอะกว่าจำนวนคนที่เสียชีวิตเสียอีก 
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรากำลังจะย้ายไปยังเหมืองของพวกออร์ค ถ้าหากว่าเราย้ายไปที่นั่นเราจะหมดปัญหาเรื่องพื้นที่อาศัยและที่สำคัญที่สุดคือผมเสริมการป้องกันเพื่อไม่ให้มันพังทลาย นอกจากนี้ผมยังสามารถเก็บหินวิญญาณได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย

ผมส่ง ก๊อบคิจิคุง นำกลุ่มของก๊อบลินจำนวนสิบคนล่วงหน้าไปก่อน ส่วนที่เหลือนั้นจัดการเตรียมของเสร็จใน 1 ชั่วโมงให้หลัง มีเหล่าก๊อบลินช่วยคนของจำนวนมากและแต่ละคนสะพายเป้ไว้ที่หลังคนละใบ ดังนั้นพวกเราจึงสามารถเข้าไปอยู่ได้ทันที

ส่วนก๊อบมิจัง , ก๊อบเอะจัง และอีกไม่กี่คนที่ผมไว้ใจจะเป็นคนคอยดูแลพวกมนุษย์ผู้หญิง หลังจากเดินทางกันประมาณชั่วโมงนึง พวกเราก็ถึงปลายทางของเรา

ดูเหมือนว่ายังมีพวกออร์คเข้ามาเพื่อที่จะเอาเหมืองคืน แต่คงถูกกลุ่มของก๊อบคิจิคุงฆ่าตายกันไปหมดแล้ว ผมได้รับหัวใจของพวกมันและส่วนอื่นๆที่เหลือผมยกให้เป็นรางวัลแก่พรรคพวกที่มาล่วงหน้า
หลังจากนั้นเราก็นำของออกมาเพื่อที่จะตกแต่งพื้นที่ภายในถ้ำ เนื่องจากเราไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมากมาย ผมจัดการทำห้องเก็บอาวุธและอาหาร , และสร้างห้องนอนให้แต่ละคน แน่นอนผมไม่ลืมที่จะสร้างห้องน้ำด้วย

เมื่อเราจัดการสิ่งทั่วไปจบ ผมปล่อยให้ส่วนที่เหลืออยู่ในความดูแลของก๊อบลินที่อายุเยอะ และเริ่มเตรียมพร้อมที่จะทำพื้นที่ใช้สอยให้แก่มนุษย์ผู้หญิง โชคดีที่ผมมีความสามารถ [Earth Control - ควบคุมดิน] จึงเป็นเรื่องง่ายมากในการทำงาน

ผมสร้างห้องตีเหล็กสำหรับช่างตีเหล็ก , ห้องครัวสำหรับสองพี่น้อง , ห้องทำงานสำหรับนักปรุงยา และสุดท้ายก็คือที่พักสำหรับแต่ละคน สำหรับห้องนอนผมทำเตียงให้พวกเขาแบบเรียบง่าย โดยการใช้กรอบไม้และด้ายของผมในการทำฟูก โครงสร้างมันดูค่อนข้างเปลือย
แต่ค่อนข้างจะสะดวกสบายแก่การนอน

การขุดหินวิญญาณที่ได้มาถูกนำมาใช้สำหรับน้ำดื่มและแสงสว่าง เพราะงั้นจึงไม่มีปัญหาใดๆเกี่ยวกับปัจจัยนี้ ดังนั้นเราจึงใช้เวลาที่เหลือของวันในการทำความสะอาดและทำงานอื่นๆในเหมือง 
ส่วนอาหารที่ถูกทำขึ้นโดยสองพี่น้องเป็นดั่งที่คาดไว้สำหรับผู้มีอาชีพแม่ครัว รสชาติมันเยี่ยมจริงๆ..






แปลโดย : Shiba Inu