Day 30 เยี่ยมชมสถานที่

ฝนตกลงมาอย่างหนักในวันนี้ แน่นอนผมเตรียมการไว้แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้

เพราะมันเป็นเวลาที่เหมาะแก่การประลองเพื่อจัดอันดับภายในกลุ่ม
ส่วนวิธีการกำหนดอันดับก็เหมือนเดิมลุยกันแบบดิบๆหยาบๆ นี่แหละเร็วและสะดวกสบายที่สุด

แต่เพราะมีความแตกต่างระหว่างพลังของ ฮ้อบก๊อบลิน และ ก๊อบลินปกติ ผมจึงจัดการแข่งขันแยกกัน ส่วนผลการตัดสินก็เป็นไปดังนี้
อันดับสูงสุดยังคงเป็นผมเช่นเคย ตามมาด้วยก๊อบคิจิคุง ถัดจากเขาก็เป็นหัวหน้าฮ้อบก๊อบลินที่เพิ่งมาไม่นาน และหลังจากเขานั้นก็เป็น ก๊อบมิจัง ตามด้วยสามฮ้อบก๊อบลินสามคนอยู่ในระดับเดียวกันหมด
ส่วนฮ้อบก๊อบลินเมจ ฮ้อบเซย์ซัง อาจจะตามมาทีหลังถ้าผมอนุญาตให้ใช้เวทมนตร์ได้ แต่ในกรณีนี้ผมคิดว่ายังไม่เหมาะเท่าไหร่


พอจบงานประลอง พวกเราก็แยกย้ายกันออกไปเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มของก๊อบคิจิคุงดูเหมือนยังอยากฝึกกันต่อ กลุ่มของก๊อบเอะจังตั้งใจจะไปขุดเหมืองต่อ และกลุ่มที่สามอยากเรียนรู้สิ่งต่างๆ
เช่น กฏที่ผมตั้งขึ้นมาใหม่, การจัดอันดับ, ตัวอักษรท้องถิ่น เป็นต้น 

โดยมีก๊อบมิจังเป็นคนสอน

ในขณะเดียวกัน ผมเข้าไปพูดคุยสิ่งต่างๆกับฮ้อบเซย์ซัง ผมมีความสนใจเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่เธอใช้ เวทมนตร์ทั้งสามที่เธอใช้นั้นมี [ไฟ] [น้ำ] [ความตาย] ผมแกล้งทำเป็นเข้าใจในสิ่งที่เธออธิบาย แต่ในความเป็นจริงแล้วผมแค่อ่านจากในหนังสือแถมยังเข้าใจไม่ได้ทั้งหมดอีก ผมเพิ่งรู้ว่าเวทมนตร์นั้นมีระบบ
หลังจากนั้นมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกอย่าง จากนั้นก็แยกย้าย ฮ้อบเซย์ซัง ไปยังสถานที่ก๊อบมิจังกำลังสอนคนอื่นๆอยู่เพื่อศึกษาเพิ่มเติม ส่วนผมก็ไปคุยกับสาวๆชาวมนุษย์ 

เมื่อผมเดินตรวจสอบรอบๆไฟและน้ำขับเคลื่อนโดยหินวิญญาณ สาวช่างตีเหล็กตอนนี้อยู่ในช่วงกลางของการผลิตเครื่องมือจากหินวิญญาณและเหล็กต่างๆที่ขุดได้จากการทำเหมือง สาวช่างตีเหล็กทำงานได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ต้องขอบคุณเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆที่พวกเราขโมยมาก่อนหน้านี้
ผมถามเธออีกว่ามีอะไรต้องการเพิ่มอีกมั้ย ผมสังเกตเห็นโรงตีเหล็กได้รับการซ่อมแซมเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะใช้มัน แต่ดูเหมือนเธอยังกลัวผมอยู่เล็กน้อยนะ 

สถานที่ต่อไปผมไปหาฝาแฝดสาว อุปกรณ์การทำอาหารก็เช่นกัน ทั้งหมดถูกปล้นมา ฝาแฝดทั้งสองไม่ได้ทำอะไรพิเรนๆกับก๊อบลิน สิ่งต่างๆดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากมองไปรอบๆห้องครัว ผมตระหนักว่ามีเพียงแค่สองพี่น้องเป็นคนเตรียมอาหารสำหรับทุกคน คงจะเป็นงานที่หนักเกินไป
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะอยู่ช่วยพวกเธอ

พวกเธอยังคงกลัวผมนิดหน่อยดังนั้นผมจึงคิดว่า ถ้าผมชิงเป็นฝ่ายรุกก่อนจะทำให้พูดคุยกับพวกเธอมากขึ้นและทำให้พวกเธอรู้สึกอุ่นใจ ในขณะที่ผมสบตา พวกเธอเป็นฝ่ายยิ้มตอบกลับซึ่งรอยยิ้มของสาวสวยถือเป็นสิ่งดี ผมใช้เวลาในการสอนทุกสูตรอาหารที่ผมรู้ให้กับพวกเธอก่อนจะไปหาคนอื่น

หลังจากนั้นผมก็ไปหานักปรุงยา ที่ใช้เวลาทั้งวันไปกับการทำยารักษา อุปกรณ์ของที่นี่ก็เหมือนกับที่อื่นๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการทำงานของเธอ 
ผมตรวจสอบขวดยาที่เธอทำขึ้นด้วยทักษะ [การประเมิน] แต่จนถึงตอนนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นพิษ ผมเริ่มมีความสนใจในกระบวนการสร้าง ผมจึงอยู่ดูต่ออีกนิดหน่อย

สาวนักปรุงยานั้นดูน่าประทับใจตรงที่เธอเหมือนคนไร้ความรู้สึก
เป็นดั่งราชินีน้ำแข็งที่หยิ่งยะโส ถึงเธอไม่ได้พูดคุยอะไรเลยในขณะที่เธอกำลังทำงาน แต่เธอก็ยังดูมีสเน่ห์ในสายตาของผม
เพราะงั้นผมจึงไม่มีปัญหาใดๆกับการรอคอย

หลังจากที่เธอทำงานเสร็จ เรามีการสนทนาสั้นๆ จากนั้นผมก็กลับไปที่ห้องทำงานของผม 

ผมพยายามใช้หนัง Black wolf เพื่อที่จะทำอุปกรณ์ป้องกัน ผมเย็บหนังด้วยด้ายของผมรวมเข้ากับทักษะงานฝีมือ ทำให้งานเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนจะช้าไปเพราะกว่าจะเสร็จก็มืดแล้วพอดี 

ก่อนที่จะเข้านอน ผมไปหยิบง้าวมาเหวี่ยงไปมาเพื่อทำความเคยชิน เพราะวันนี้ทั้งวันผมวุ่นอยู่กับการเดินไปรอบๆ จนตอนนี้ผมเหนื่อยและคงต้องขอตัวไปนอนก่อน...





แปลโดย : Shiba Inu