เนื่องจากฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงใช้เวลาทั้งวันภายในถ้ำ
เป็นวันที่ดำเนินไปตามปกติ หลังจากการฝึกซ้อมช่วงเช้าจบลง ผมสวมเกราะ Black wolf ที่ผมทำเสร็จเมื่อวานและถือง้าวซึ่งผมยังไม่ได้นำไปลองใช้ต่อสู้จริง ก่อนที่จะหันไปเห็นก๊อบคิจิคุง สวมอุปกรณ์ครบชุดในการฝึกอย่างจริงจัง
ชุดใหม่ของผมประกอบไปด้วยกางเกงหนังสีดำที่มีความยืดหยุ่นและสวมด้วยเสื้อหนังสีดำเช่นกัน มือซ้ายของผมสวมถุงมือที่ทำจากเหล็กและมือขวาผมใช้กระดองเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก ด้วยการลองหลายๆวิธีทำให้ประยุกต์ใช้ได้ดีขึ้น
ส่วนหัวของผมนั้นยังคงไม่ได้หาอะไรมาใส่เช่นเคย และเท้าของผมสวมรองเท้าบูทที่พวกก๊อบลินนำกลับมาจากการผจญภัย เนื่องจากผิวของผมเป็นสีดำ อุปกรณ์พวกนี้ทำให้ผมเกือบมองไม่เห็นในเวลากลางคืน
อุปกรณ์ของก๊อบคิจิคุงนั้นส่วนใหญ่ได้มาจากการเข้าโจมตีพวกออร์ค อาวุธหลักของเขาคือ [Crescent Axe - ขวานเสี้ยวพระจันทร์] แถมยังมีเปลวเพลิงออกมาจากขวานเนื่องจากผมได้ฝังหินวิญญาณอัคคีใส่ไว้ โล่ของเขาเป็นดั่งปราการเหล็กสีดำทำจากกระดองเสริมรอบๆโล่ ที่มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมากๆแถมยังค่อนข้างหนักเอาเรื่อง
ชุดเกราะของเขานั้นมาจากชุดที่หัวหน้าออร์คใช้ โดยใช้ด้ายของผมผูกเข้ากับกระดองและหนังของ Black wolf เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและความคล่องตัว ดูรวมๆแล้วอย่างกับป้อมปราการเดินได้เลยล่ะ
ชุดเกราะพวกนี้เข้ากับร่างกายเขาได้พอดี ดูเหมาะสมกับตำแหน่งของผู้เชี่ยวชาญทัพหน้าอย่างก๊อบคิจิคุง (ก๊อบคิจิคุงนี่ดูแข็งแกร่งจริงๆ)
ผมรู้สึกได้ทันที่หลังจากร่วมฝึกกับเขา แต่พอหันไปทางเขาที่มีอาวุธพร้อมมือผมก็เข้าใจได้เลยว่าเขาพัฒนาขึ้นขนาดไหน โดยทั่วไปแล้ว ทั้งผม หรือใครก็ตามที่แข็งแกร่งจะต้องพร้อมไปด้วยความสามารถที่หลากหลาย เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความสับสนผ่านการใช้เทคนิคต่างๆ และวิธีเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่ผมเชี่ยวชาญที่สุดก็คือการโจมตีจากด้านหลัง มันไม่ส่งผลดีแน่ๆถ้าหากผมต้องสู้แบบตาต่อตากับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งโดยไม่ใช้ความสามารถ เช่น ก๊อบคิจิคุง
เขายังคงเป็นคู่แข็งที่ผมต้องใช้ความสามารถเพื่อเอาชนะ แต่ถึงขนาดมีง้าวบวกด้วยพลังจากร่างกายทั้งหมดของผมก็ยังไม่สะทกสะท้านโล่ปราการของก๊อบคิจิคุง ก็เป็นไปตามคาดแหละนะ ถึงแม้จะยกของหนักๆ แต่เขาก็ยังเหวี่ยงขวานได้อย่างกระฉับกระเฉง ซึ่งน่าชมเชยในจุดนี้ ดูเหมือนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาแกร่งขวานได้แม่นยำ รวดเร็ว และใส่น้ำหนักได้ดี
เยี่ยมไปเลย จากอาวุธที่เขาใช้ล่าในตอนแรกจนถึงตอนนี้ก็มีลักษณะคล้ายๆกัน จากตะบอง > ขวาน ซึ่งนี่คงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาคุ้นเคยกับอาวุธหนัก
ในบรรดาหมู่บ้านของก๊อบลิน ถ้าถามหาคนที่ใช้ขวานได้ยอดเยี่ยมที่สุด ก็คงไม่พ้นก๊อบคิจิคุงแน่นอน
นอกจากนี้การเผาไหม้จากขวานเสี้ยวพระจันทร์ เป็นปัญหามากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก แต่ผมมีความสามารถ[ต้านทานไฟ] ดังนั้นผมจึงไม่ได้รับความเสียหายจากเขา อย่างไรก็ตามถึงมันจะต้านทานไฟและความร้อน
แต่เพราะเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงมันบดบังการมองเห็นของผมและเมื่อผมจับง้าว ความร้อนมันส่งผ่านด้ามจับจนร้อนไปหมด ทำให้ผมแทบจะหมดแรงถือ พวกเราใช้เวลาค่อนข้างนานในการประลองอย่างต่อเนื่องกว่าจะจบลง
ผมใช้เวลาที่เหลือในการทำเสื้อผ้า , ขุดหาหินวิญญาณ ,กินอาหารที่สองฝาแฝดแล้วก็เตรียมเข้านอน และเมื่อทุกคนเข้านอนกันหมดก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ด้วยความสามารถ [ตรวจจับการเคลื่อนไหว] ของผมทำให้รู้ว่ามีจำนวน 8 คนกำลังมุ่งหน้าไปทางที่อยู่ของมนุษย์ผู้หญิง
ผมตื่นขึ้นและได้ยินเสียงกระซิบคุยกันเกี่ยวกับการจู่โจมพวกผู้หญิง ขณะที่ได้ยินแบบนั้นผมหยิบง้าวที่วางไว้ใกล้เตียงและไล่ตามพวกเขาไปเพื่อแน่ใจว่าผมไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง
แต่หลักฐานมัดตัวแน่นหนาเลยว่าพวกเขาตั้งใจจะจู่โจมพวกผู้หญิงจริงๆ หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้พวกเขาไม่สามารถแก้ตัวง่ายๆอย่าง "ฉันทำผิดไปแล้ว" หรอกนะ
เมื่อผมแน่ใจอย่างที่สุดผมเหวี่ยงง้าวของผมใส่ลงไปที่คอของก๊อบลินใกล้ๆ หัวของเขาหลุดลอยตามแรงโน้มถ่วงของโลกลงไปกองอยู่ที่พื้น จากนั้นผมก็เหยียบซ้ำลงไปอีกทีเพื่อบดขยี้ให้แหลก
หลังจากสับหัวของเขา เท้าของผมเปื้อนไปด้วยเลือด แต่ตอนนี้ผมไม่สน ผมทำให้แน่ใจโดยการเผาพวกเขาแทน เนื่องจากกันตัดคอพวกเขามันทำให้ชุดของผมเลอะและทำความสะอาดยาก
กลิ่นเนื้อไหม้อ่อนๆจุดสัญชาตญาณการต่อสู้ของผมขึ้นมา ผมกล้าพูดเลยว่าผมกำลังหัวเราะอยู่ขณะที่ทำเรื่องแบบนี้ มันเป็นบรรยากาศที่ชวนอึดอัด เกิดการฆ่าตกรรมอย่างรวดเร็วและเลือดเย็นมาก
สายตาของทุกคนที่ถูกผมจับเอาไว้ตกอยู่ในความตะลึงและสับสน ผมไม่สนใจพวกเขาหรอกผมจับกุมพวกก๊อบลินที่เหลือด้วยด้ายของผม มองไปทางพวกที่โดนจับทั้งหมดเขาเป็นลูกน้องของหัวหน้าฮ้อบก๊อบลิน
ผมซัดไปที่หน้าของหัวหน้าฮ้อบก๊อบลิน ที่ทำร้ายสาวผมแดง เข้ากลิ้งไปกองกับพื้นด้วยใบ้หน้าปูดบวม เป็นครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ผมคว้าคอเข้าขึ้นมา ผมพยายามฟังที่เขาเล่าเพื่อตัดสินว่าจะไว้ชีวิตของเขามั้ย
ดูเหมือนเขาไม่สามารถระงับอารมณ์ทางเพศของตัวเองเอาไว้ได้ เมื่อผมถามว่าทำไม หลังจากที่เขาได้ลิ้มลองร่างกายของพวกมนุษย์หนึ่งครั้ง ความต้องการทางเพศของพวกเขาก็ไม่สามารถตอบสนองโดยก๊อบลินเพศหญิงอีก
มันเป็นความสุขที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง "แกไม่เข้าใจรึไง วะห๊ะ !?" ผมชกเขาไปอีกครั้งเพื่อหยุดการสนทนาไร้สาระ สาวๆที่ถูกทำร้ายทั้งหมดส่วนหนึ่งของเสื้อผ้าถูกฉีกขาด ผมรู้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ผมปล่อยเส้นด้ายไปถักบางส่วนให้พวกเธอ สาวๆทั้งหมดกำลังกอดร่างกายของตัวเองและสั่นไปด้วยความหวาดกลัว เพราะถ้าหากยังปล่อยให้เสื้อผ้าของพวกเธอฉีกขาดอีกอาจจะทำให้ล่อตาล่อใจก๊อบลินตัวอื่น
ขณะที่ผมเสร็จสิ้นการแจกเสื้อผ้าใหม่ให้กับพวกเธอ ผมเรียกให้พวกเธอกลับมามีสติและพยายามที่จะทำให้พวกเธอใจเย็น สาวผมแดงเข้ามาซบที่หน้าอกผมและร้องไห้ ผมอดกลั้นเอาไว้และเรียกทุกคนออกมา
ดูเหมือนว่าพวกเธอจะค่อยๆสงบลง ถึงเธอยังคงสงเสียงร้องอยู่ ก๊อบคิจิคุง ก๊อบมิจัง และก๊อบเอะจังรีบมาดูที่เกิดเหตุ ผมบอกให้พวกเขานำก๊อบลินที่ผมมัดเอาไว้หน้าปากถ้ำ และไปปลุกทุกคนให้ตื่น
ผมทิ้งศพและหัวที่เละไว้บนพื้นแบบนั้น หลังจากสั่งการทั้งหมดสาวผมแดงดูเหมือนจะสงบลงเมื่อผมโอบเธอไว้ แม้ว่าเธอจะยังไม่ปล่อยมือจากเสื้อผ้าของผมเธอยังคงตัวสั่นและทำให้ผมเกิดความสงสัย
ที่จริงผมคิดว่าเธอคงต้องการคนคอยดูแลสภาพจิตใจขณะนี้ ช่วยไม่ได้ดังนั้นผมจึงพาเธอและผู้หญิงคนอื่นๆไปด้วย ถึงพวกเธอจะสั่นไปด้วยความกลัวแต่พวกเธอไม่ต้องการที่จะแยกออกจากผม
เพราะผมได้ช่วยเหลือพวกเธอตามสัญญาจากสิ่งที่เห็นด้วยตาของตัวเอง
ต้องทำให้แน่ใจว่ายังไม่มีใครนอนหลับอยู่ ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงที่อยู่ติดกับปากทางเข้าถ้ำ ผมชี้ไปที่ก๊อบลินด้วยปลายง้าวของผมและทบทวนกฏที่พวกเขาต้องปฏิบัติตาม
"คนพวกนี้ขัดคำขั่งของฉันและทำเรื่องแบบนี้~~,ฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย บลา บลา บลา~"
ผมทำให้พวกเขาเข้าใจจนฝังไปยังสมองและเริ่มทรมานพวกเขา เริ่มแรกผมตัดปลายนิ้วของพวกเขาออกทีละนิ้วด้วยมีดโบวี่ จากนั้นก็ระงับบาดแผลด้วยเปลวไฟจึงทำให้พวกเขายังไม่ตกไปสู่ความตายและใช้คาถาฟื้นฟูเพื่อรักษาบาดแผลจากนั้นผมก็ทรมานต่อไปเรื่อยๆทีละนิดๆ และรักษาบาดแผลซ้ำไปซ้ำมา แม้พวกเขาจะอยากตายก็ตายไม่ได้
พวกเขากรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นผมจึงอุดปากของพวกเขาด้วยด้ายของผมเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขากัดลิ้นตัวเองพวกเขาจะไม่ได้ตายอย่างรวดเร็ว
ใช่แล้ว ผมให้ทุกคนยืนดูเหตุการทารุณแบบนี้ เพื่อประกาศว่าพวกเขาจะเจอกับอะไรถ้าขัดคำสั่งผม
การกระทำเช่นนี้ พิสูจน์ให้สาวๆ ที่ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เป็นอันตรายเข้าใจได้ง่ายขึ้น ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาภายในที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หกก๊อบลินโดนทรมาณด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำแบบ และท้ายที่สุดก็เหลือเพียงคนเดียว
หัวหน้าฮ้อบก๊อบลินร้องขอชีวิตด้วยสายตาของเขา ถึงแม้ผมจะชอบที่เขาเป็นกระสอบทรายโง่ๆแต่ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูด ผมก็ไม่เห็นคุณค่าในการดำรงอยู่ของเขา ภายในกลุ่มของเขานั้นยกยอให้เขาแข็งแกร่งที่สุด แต่ผมไม่คิดแบบนั้น ผู้นำที่โง่เขลาย่อมมีผู้ติดตามที่โง่เช่นกัน ทุกอย่างต้องจบลงเพียงเพราะผู้ชายคนนี้
ผมไม่ยอมรับคนที่ปฏิบัติตามกฏง่ายๆที่ผมตั้งเอาไว้ แม้ว่าพวกของผมยังมีคนโง่ๆแต่พวกเขาก็ยังเข้าใจ
แต่ถึงอย่างงั้นผมไม่ฆ่าลูกน้องของเขาเพียงแค่เพราะไม่ชอบขี้หน้าหรอกนะ แต่ยกเว้นผู้ชายคนนี้ผมมีข้ออ้างร้อยแปดเพื่อจะจัดการเขา จากจุดเริ่มต้นนี่ถือเป็นกรณีที่ดีที่มี 2 ขั้วอำนาจภายในชุมชนของเรา
ผมเผาไปที่แขนของเขาต่อเนื่องโดยไม่ลังเล อีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง ทรมานเขาด้วยการจับกดน้ำ ขังเขาเอาไว้ใต้หินและเฆี่ยนตีจนเขาแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ ผมทรมานเขาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุด....
แปลโดย : Shiba Inu