Day 51 Half Spell Lord

เมื่อผมตื่นขึ้น ก๊อบลิน 4 คน ได้กลายเป็น ฮ้อบก๊อบลิน ในขณะนี้มี ฮ้อบก๊อบลินรวมแล้วทั้งหมด 12 คน

นอกจากนี้ 1 ในนั้นมีอาชีพสาย Cleric ส่วนที่เหลือนั้นเป็น Mage ทั้งหมด

แผลสาหัสส่วนใหญ่นั้นผมจะเป็นคนรักษาเองทั้งหมด ดังนั้นผมจึงดีใจอย่างมากที่มีอาชีพสายรักษาเข้ามาช่วยอีกแรง

ผมไม่อาจรักษาได้ทันเพราะบางส่วนอาจจะตายไปก่อน ถ้าหากพวกเขาได้รับบาดเจ็บมาพร้อมๆกันเป็นกลุ่มใหญ่

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ผมจัดตั้งหน่วยรักษาชื่อ “Prière” ขึ้นมาโดยให้ฮ้อบก๊อบลินคลีริคคนนั้น "ก๊อบจิคุง" เป็นหัวหน้าของหน่วยนี้ 

**มาจาก Prayer หมายถึง [คำอธิษฐาน]** 

(ถึงแม้ตอนนี้จะมีคนเดียวก็เถอะนะ แต่ผมก็หวังว่าจะมีคนอื่นๆที่มีทักษะแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก

ถ้าผมนับไม่ผิดจริงๆ ทั้ง ก๊อบมิจัง,ก๊อบเอะจัง,ฮ้อบซาโต้ซัง รวมถึงลูกสมุนของพวกเธออีก 5 คนและรวมอีก 4 คนที่เพิ่งจะ Rank Up วันนี้แล้ว ก็กลายเป็น 12 พอดี

ส่วนฮ้อบเซย์นั้นไม่ได้ถูกนับรวมเนื่องจาก ลักษณะตอนนี้ของเธอมันแปลกๆต่างไปจากเดิม

ฮ้อบเซย์ตอนนี้ได้กลายมาเป็น Lord สายพันธ์ุพิเศษที่เรียกกันว่า Half Spell Lord

เกี่ยวกับ Half Spell Lords; ดูเหมือนว่าสำหรับ ฮ้อบก้อบลิน นั้น ผู้ที่ใช้เวทมนตร์ได้จะไม่ได้กลายเป็นโอเกอร์ตามสายธรรมดาทั่วไป แม้ว่าทักษะทางกายภาพของพวกเขาจะต่ำกว่ามอนเตอร์ปกติแต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่เชี่ยวชาญในการใช้เวทมนตร์สุดๆ

เพราะงั้นจุดที่น่ากลัวของเธอเลยก็คือการอัดเวทมนตร์ขนาดใหญ่ใส่อีกฝั่งตูมเดียวก่อนที่จะได้ทันตั้งตัว

ความสามารถด้านอื่นๆโดยรวมถ้าเทียบกับ Lord ประเภทอื่นนั้นถือว่าต่ำมาก แต่เฉพาะเวทมนตร์เท่านั้นที่เป็นจุดแข็งของสายนี้ เพราะเป็นหนึ่งในเทคนิคที่จะทำให้ศัตรูบาดเจ็บหรือล้มตายจากระยะไกล

Half Spell Lord นั้นมีลักษณะภายนอกเหมือนพวกมนุษย์แต่จะมีเขาเล็กๆงอกขึ้นมาบนหัว 2 ข้าง จากมุมมองของผมมันแทบไม่ต่างอะไรจากฮ้อบเซย์คนเดิม แต่ถ้ามองจากคนอื่นคงเหมือนผู้หญิงวัย 20 ต้นๆ และเธอน่ารักขึ้นเหมือนกับสาวนักปรุงยาที่มีความฉลาดทางด้านปัญญาและทรงเสน่ห์ ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับเธอดี




เธอมีผิวขาวอมชมพูที่เปร่งประกายออกมา ดวงตาสีเขียวคู่ที่แสดงออกถึงสติปัญญา มีอัญมณีสีฟ้าขนาด 3 ซม.อยู่ตรงกลางหน้าผากระหว่างเขาคู่เล็กๆของเธอ ผมสีเทายาวทอดไปยันเอวของเธอและมีรอยสักสีดำคล้ายคลึงกับของผมอยู่บนแขน

วัดจากสายตาแล้วความสูงเธอคงประมาณ 180 ซม.

เธอกล่าวว่าเดิมทีแล้วพวก Half Spell Lord นั้นไม่ได้มีรอยสักอะไรแบบนี้และก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เธอรู้สึกว่ามีพลังมากมายเอ่อล้นออกมาจากรอยสักซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่แย่อะไร

เมื่อผมถามอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับ ก๊อบคิจิคุงนั่นก็คือ [Demigod's Divine Protection] ซึ่งเธอกล่าวว่าเธอไม่ได้รับพรอะไรเช่นนี้

หื้มมม !? นี่มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ผมหวังว่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ในภายหลัง

ปู่ก๊อบลินบอกว่า พวกที่มีชื่อ Half นำหน้านั้นความสามารถจะต่ำกว่าพวก Spell Lord สายพันธุ์แท้
ซึ่งมันแสดงถึงการเริ่มต้นที่ Half นั้นภายภาคหน้าเธอจะกลายเป็น Spell Lord แบบเต็มตัวนั่นเอง

คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่า Half เท่าไหร่เพราะเนื่องจากก้อบลินส่วนใหญ่จะพุ่งสายไปที่ ฮ้อบก้อบลิน และพัฒนาไปเป็น โอเกอร์ เลยซึ่งไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมายแบบนี้

หลังจากนั้นเพื่อทดสอบความสามารถหลังจากที่เธอเป็น Half Spell Lord เราสองคนจึงออกไปลองกันข้างนอกซึ่งผลที่ออกมานั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผมไม่น้อยเลย

ท่ามกลางเวทมนตร์ที่ฮ้อบเซย์ใช้ได้นั้น เธอบอกว่าตอนนี้เธอสามารถใช้เวทย์ระดับ 2 ได้แล้วซึ่งเธอเรียกมันว่า "Firestorm of Disaster"

ถ้าหากยังงงๆกัน ผมจะอธิบายให้ฟังเอง

ดูเหมือนพระเจ้านั้นได้กำหนดเวทมนตร์ไว้ทั้งหมด 10 ระดับ ซึ่งเรียงจากระดับ 1 คือระดับแรกสุดไปจนถึง ระดับ 10 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุด และระดับความยากในการร่ายก็เพิ่มมากขึ้น รวมถึงพลังทำลายล้างและการใช้งานอื่นๆ

นอกเหนือจากนี้ก็มีพรของพระเจ้าต่างๆแบบที่ผมกับก๊อบคิจิมี และในโลกนี้นั้นมีหลายสถานที่ที่สามารถพบกับพระเจ้าได้ โดยที่แห่งนั้นถูกเรียกว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์"

เอาล่ะ เราพักเรื่องพระเจ้าไว้แค่นี้แล้วกลับเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่า

หลังจากที่รู้ว่ามันเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่ขั้นเดียวจากขั้นพื้นฐาน ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่ามันอ่อนแอล่ะก็ คุณคิดผิดอย่างแรง

เพียงแค่เวทมนตร์ระดับ 1 ก็สามารถฆ่าคนได้หลายๆคนในเวลาเดียวกันแล้ว แค่ยิงลูกไฟเพลิงจาก "Flame Calamity" ในระดับแรก คนที่โดนเข้าไปก็ไหม้กลายเป็นจุลไปอย่างง่ายดาย

และถ้าหากโดนเวทมนตร์สายฟ้าแบบเดียวกับที่ผมโดนยิงใส่ครั้งที่แล้ว แต่เป็นระดับ 3 เพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถจัดการมอนสเตอร์ระดับเดียวกับโอเกอร์ได้ทั้งหมด

ถ้าคุณสามารถใช้เวทมนตร์ระดับที่ 5 ได้ แม้แต่การเผาเมืองทั้งเมืองก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้

ส่วนระดับที่สู้กว่านั้นแม้แต่มอนสเตอร์นับพันๆตัวก็ถูกจัดการลงได้ ซึ่งแม้สาวผมแดงเคยได้ยินจากบางคนถึงแม้จะเป็นเพียงคำบอกเล่าก็ตาม

.....ผมชักสงสัยแล้วสิว่าผมจะได้ความสามารถแบบไหนมานะ ถ้าหากผมได้กินพวกเขา

มันเป็นเรื่องสนุกที่จะคิดถึงความเป็นไปได้ ก็ตั้งแต่ที่ผมกิน High Wizard และได้รับเวทมนตร์ระดับ 3 ของเขามา ผมคงบอกไม่ได้ว่าจะมีโอกาสแบบนั้นเกิดขึ้นอีกมั้ย

กลับมาที่หัวข้อเวทมนตร์ระดับ 2 ของฮ้อบเซย์  "Firestorm of Disaster" เมื่อถึงเวลาใช้ ฮ้อบเซย์จะเรียกลูกไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร ร่วงลงมา 5 ครั้งในพื้นที่ทำให้เกิดการทำลายเป็นวงกว้าง

เมื่อเทียบกับตอนเป็นฮ้อบก้อบลิน เธอต้องการสมาธิและการร่ายที่ยาวนานขึ้นกว่าแต่ก่อนและนอกจากนี้เธอยังไม่สามารถใช้มันได้ติดต่อการเป็นเวลานาน เมื่อคิดถึงความเสี่ยงโดยธรรมชาติแล้วการใช้อำนาจการทำลายล้างนี้ควรจะถูกหยิบนำมาใช้เป็นวิธีสุดท้ายมากกว่า

แต่ตอนนี้เธอได้กลายเป็น Half Spell Lord แล้ว

เวลาที่จำเป็นต้องใช้งาน "Firestorm of Disaster" ไม่เพียงแต่จะลดลงเหลือเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้นเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แต่ยังมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลูกไฟอยู่ราว 35 ซม. และจำนวนลูกไฟทั้งหมดที่ยิงได้เปลี่ยนเป็น 20 ครั้ง

**เผื่อคนงง "Firestorm of Disaster" เป็นเวทย์ที่ใช้ได้อยู่แล้วโดยระดับ 1 จะปล่อยไฟลงพื้น 5 ครั้งและพอเป็นระดับ 2 จะกลายเป็น 20 ครั้ง แถมมีขนาดลูกไฟใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัวด้วย**

นอกจากนี้ยังไม่ทำให้เธอรู้สึกเมื่อยล้าจากการเสียมานาเช่นแต่ก่อนนอกจากนี้เธอยังสามารถใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลังกว่าเดิมได้อีกด้วย

ตอนนี้เธอยังเป็นแค่ Half Spell Lord แต่ผมคิดไม่ออกเลยว่าเวทมนตร์ตอนเป็น Spell Lord เต็มตัวนั้นจะทรงพลังขนาดไหน

ไม่ว่าจะพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโลกนี้มากแค่ไหนข้อมูลที่ผมมีก็ยังไม่สมบูรณ์การไม่ทราบถึงขีดจำกัดของพลังมันค่อนข้างจะน่ากลัว

เพื่อแสดงความยินดีแก่ฮ้อบก้อบลินหน้าใหม่ ผมก็ทำเช่นเดียวกับทุกทีคือมอบอุปกรณ์เวทมนตร์ให้แก่ฮฮ้อบก้อบลินเมจทั้ง 4

ฮ้อบเซย์ได้รับไอเทมจากคลังสมบัติของ Velvet ซึ่งเป็นเสื้อคลุมที่ทำมาจากเงินและด้ายสีทองรวมกับผ้าคลุมไหล่สีแดงที่แสดงให้เห็นถึงเทคนิคพิเศษหลายอย่างเช่น [Auto-Amplification] และ [Physical / Magic Damage Resistance] และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมมอบให้ก็คือไม้เท้า "Arannote's Staff"

มันทำจากไม้โบราณที่เรียงรายไปด้วยอัญมณีเวทมนตร์สีแดงที่เคยถูกครอบครองโดยนักผจญภัย [Job-High Wizard] ที่ถูกฆ่าตายในดันเจี้ยนของ Velvet ที่ผ่านมา

ผมยังได้มอบไอเท็มเวทมนตร์ประเภทสร้อยข้อมือที่มีความสามารถในการจัดเก็บเวทมนตร์และเครื่องมือเวทมนตร์เช่นเดียวกับที่ผมมอบให้แก่ ก้อบคิจิคุง ส่วนอุปกรณ์ชุดเก่าของฮ้อบเซย์ถูกโอนให้ฮ้อบก้อบลินเมจสองคนที่อยู่ในทีมของเธอ

ตอนนี้ผมเริ่มที่จะบ่นและสงสัยเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของก้อบลินในรุ่นของผม ดูเหมือนก้อบลินจากรุ่นของผมจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงกว่าปกติซึ่งอาจจะเป็นเพราะพวกเขามีศักยภาพการดูดซับประสบการณ์ที่ดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนของฮ้อบก้อบลินในตอนนี้

ซึ่งปู่ก้อบลินเคยบอกผมมาก่อนว่า โดยปกติแล้วก้อบลินจะต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าพวกเขาจะกลายเป็นฮ้อบก้อบลิน ส่วนเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะผมอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ซึ่งนับตั้งแต่ที่พวกเขาเกิดมาก้อบลินเหล่านี้ได้ฆ่าและกินชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตหลายชนิด ก้อบลินธรรมดาทั่วไปจะหลีกเลี่ยงที่จะทำแบบนี้เพราะจะเกิดโรคระบาด แต่พวกรุ่นของผมนั้นได้รับการฝึกอบรมที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้อัตราการเติบโตของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

นอกจากนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความช่วยเหลือจากสกิล [Pack Leadership] ของผม

ประสิทธิภาพของความสามารถนี้ช่วยในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เพื่อที่จะบรรลุเงื่อนไขในการใช้ความสามารถนี้ ผมจะต้องคิดค้นแนวคิดสำหรับแต่ละกลุ่มโดยเลือกบุคคลที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับการเป็นผู้นำและความสามารถของพวกเขาและมอบหมายงานให้พวกเขาทำ

แต่ตอนนี้ผมต้องคิดถึงการเพิ่มจำนวนของก้อบลินซักหน่อย ถ้าหากว่าอายุขัยของโอเกอร์นั้นสั้นเหมือนพวกก้อบลิน มันคงเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากๆ

และเยี่ยมที่สุดเลยตอนนี้ เอลฟ์ทั้ง 17 คนที่ถูกขัง ผู้หญิง 1 คนจากใน 7 คน และผู้ชาย 3 คนจากในนั้นยอมที่จะทำตามความต้องการของพวกเขาแล้ว

แม้ว่าผมจะมีก้อบมิจัง และสาวๆคนอื่นๆ แต่ผมก็อยากลองเหมือนกันว่าทำกับเอลฟ์นั้นจะมีความรู้สึกเป็นเช่นไร ดังนั้นผมจึงนำเธอมาเปิดซิงเป็นคนแรก

ผมบอกเธอว่าผมจะตั้งใจทำและระมัดระวังไม่ให้เธอต้องบาดเจ็บ แต่ก็อดปฏิเสธไม่ได้ที่ผมจัดการเธอซะจนสลบไปเลย

หลังจากนั้นก็ถึงคิวของพวกก้อบลินคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากรุ่นของผมเองทั้งหมด

ผมได้ให้คำสั่งแก่พวกเขาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันแล้วพวกเขาจะต้องทำให้เธอนั้นรู้สึกดีด้วยเช่นกัน

ผมไม่ยอมให้มีการทำกันแบบหลายคนพร้อมๆกัน ผมต้องการให้พวกเขาทำกันทีละคน

ผมคิดว่าเธอคงไม่เต็มใจถ้าหากตามปกติ แต่เพราะเธอเป็นเอลฟ์ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนในปฏิกิริยาที่ถูกกระตุ้นด้วยยาเสพติดตอนนี้เธอจึงตื่นเต้นมาก

ผมคิดว่า "ถ้าหากเธอรู้สึกดีกับเรื่องแบบนี้ก็โอเคแล้วใช่มั้ย ?" 

เพราะผมได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดในการดูแลพวกหญิงด้วยความระมัดระวังและเนื่องจากผู้หญิงได้รับห้องพักดีกว่าพวกก๊อบบลิน พวกเขาไม่ควรจบลงด้วยเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งแล้วก็ตายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปู่ก้อบลิ้นเนี้ย ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะงั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ดีเพราะผมได้ดำเนินการก่อน "ปู่นี่โนสนโนแคร์จริงๆเลยนะ"

ตอนนี้ขอพูดถึง [ XXX of Kins] ที่ผมได้รับเมื่อตื่นขึ้นมา

**เป็นหนึ่งในทักษะที่ถูกผนึกไว้ของก้อบโรว โดยจะถูกกล่าวถึงในภายหลัง**

ผมไม่เข้าใจว่าควรใช้อย่างไรแต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ชัดเจนว่าจะมีผลกระทบในขณะนี้

ผมไม่สามารถคาดเดาได้เนื่องจากตัวอักษรสองสามตัวแรกถูกบล็อกเอาไว้ไม่ให้เห็น

ผมอยากจะพูดว่า "ใครซักคนช่วยสอนฉันที!!"

ถ้าเป็นความสามารถที่ผมเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผมมักเข้าใจวิธีใช้ แต่ความสามารถนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผมสมควรได้รับเนื่องจากกฎบางอย่างของโลกนี้ ดังนั้นผมจึงไม่เข้าใจ

ผมพยายามอย่างมากเพื่อที่จะคิดให้ออกในตอนนี้แต่ว่า......ช่างมันเถ้ออออะะะะ !