Day 62 เช็คจำนวนกองทัพ

ต่อมาในตอนเย็นผมยังคงทดลองกับ [Lesser Summoning: Undead] 

ผมสามารถเปลี่ยนพวกมอนสเตอร์ที่เรียกมาได้ตามความต้องการ ผมสามารถสร้างอัศวินกระดูกดำได้หลายแบบทั้ง หอก / ดาบ / ขวาน / ธนู รวมถึงนักเวทย์ และที่ง่ายสุดคือโครงกระดูกธรรมดาสีขาวเอาไว้เป็นเบี้ยในการสุ้กับฝ่ายตรงข้าม

ผมสามารถเรียกซากศพอย่างพวก ซอมบี้ หรือแม้แต่วิญญาณร้ายอย่างพวก ผี ได้อีกด้วย ผมชักอยากจะลองกินผีดูซะแล้ว แต่มันดูไร้สาระเกินไปที่จะกินสสารพวกนี้

แต่ปรากฏว่ามีเงื่อนไขพิเศษในโลกนี้ที่สามารถกินพวกผีได้ ดูเหมือนผมต้องคนหาใครซักคนที่ทำแบบนี้ได้และกินเขาซะ 

กลับมาที่หัวข้อเดิม ผมสร้างกองทัพซอมบี้และโครงกระดูกสีขาวเพื่อให้พวกเขาแพ้อย่างง่ายดายและเพิ่มประสบการณ์ให้กับทีม

เนื่องจากอัศวินกระดูกดำนั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ จึงเป็นหน้าที่ของพวก ออก้าคิจิ , แดมมิจัง , โคโบลและพวกเอลฟ์ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามพวกอันเดดก็ยังมีข้อจำกัดหลายๆอย่างเช่นการแพ้แสงแดด ถึงแม้ว่าจะบัฟเพิ่มความสามารถเข้าไปให้ผลการฝึกออกมาดียิ่งขึ้นก็ตาม

แดมมิจัง ก็เป็นอันเดดเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเธอครอบครอง  [God’s Divine Protection]  ดังนั้นทำให้เธอแตกต่างจากอันเดดปกติทั่วไป

อัศวินโครงกระดูกดำนั้นสามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้ราวๆ 10 นาที แต่ก็ถูกลดทอนความแข็งแกร่งลงไปมากจากตอนปกติ

พวกมันอ่อนแอจนขนาดที่แม้แต่พวกโคโบลด์ก็สามารถเอาชนะได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วล่ะนะ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกโครงกระดูกดำนั้นมีคลาสเป็นอัศวิน แต่กับพวกซอมบี้หรือผี พวกมันอยู่ได้ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ

และถึงแม้พวกซอมบี้จะถูกแสงแดดส่องจนตายไปแต่ศพของพวกมันก็ยังแพร่กระจายเชื้อโรคใส่พวกศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง น่าแปลกที่ฮ้อบฟูจัง ชอบกินเนื้อพวกซอมบี้ ดูเหมือนเธอจะได้คลาสใหม่ในเร็วๆนี้ ส่วนพวกผีนั้นไม่หลงเหลือสิ่งใดเลย นอกจากนี้ยังเจ็บที่พวกเขาสามารถถูกกำจัดได้โดยใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์หรือแสงศักดิ์สิทธิ์

ผมได้คิดเกี่ยวกับวิธีการเอาชนะต่างๆในสนามรบ แต่มันออกจะปวดหัวไปหน่อย ดังนั้นผมจึงหยุดคิดเรื่องพวกนี้ซักพักแล้วลงมาคุมการฝึกพวกโคโบลด์และเอลฟ์อย่างจริงจังแทน

พวกเอลฟ์นั้นความสามารถสูงอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงถูกให้ไปฝึกต่อกับพวกอัศวินกระดูกดำ และดูเหมือนจะได้ผลดีเยี่ยม

ผมรู้สึกกังวลกับตัวเองนิดหน่อย เพราะเนื่องจากพวกโคโบลด์นั้นเดิมศักยภาพเทียบเท่ากับพวกฮ้อบก้อบลิน หรือบางคนอาจจะสูงกว่า แต่ก็ต้องออมแรงไว้พอสมควร

ถ้าเรียงจากสภาพปัจจุบันของทีมเราก็ราวๆนี้ :

Half-Lords: เพศหญิง 3

Ogres:  เพศชาย 2 

Dhampir: เพศหญิง 1 

Hobgoblins:  เพศชาย 6  เพศหญิง  4

Hobgoblins Mages: เพศชาย 3 เพศหญิง  2 

Hobgoblins Clerics: เพศชาย 1 เพศหญิง 1 

Goblins : เพศชาย 14  เพศหญิง 16 

Elders Goblins: เพศชาย 4  เพศหญิง 4 

Elves: เพศชาย 10 เพศหญิง 7 

Human: 5 เพศหญิง

Kobold Footman: เพศชาย 1 

Kobolds: เพศชาย 18 เพศหญิง 10 เด็ก 4 และผู้สูงอายุ 3 

ทั้งหมด 119 ชีวิต




รวมทั้งสัตว์เลี้ยง:

Three-Horned Horses: 5 ตัว

Hind Bears: 3 ตัว

Black Wolf Leader: 1 ตัว

Black Wolfs: 8 ตัว

ดังนั้นกลุ่มของพวกเราจึงรวมทั้งหมด 136 ชีวิต

ถึงแม้จะมีจำนวนมากขึ้นแต่ที่อยู่อาศัยของเราเดิมแล้วเป็นเหมืองขนาดใหญ่และมีการขยายพื้นที่มากขึ้นจึงไม่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตามงานหลักใหญ่ๆดูเหมือนจะเป็นด้านอาวุธและอาหารของพวกเราซะมากกว่า

พวกคนอ่อนแอนั้นจะจับกลุ่มกันออกไปล่าอาหารจากพวกมอนสเตอร์ที่อ่อนแอกว่า แม้กระทั่งในป่าก็ยังมีผลไม้มากมาย และด้านโภชนาการก็มีสองฝาแฝดคอยดูแลเรื่องการปรุงอาหารให้พวกเหล่าก้อบลินอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องบางคนได้รับน้อยได้รับมาก

อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ต้องได้กินกันทุกคน เพราะอาหารจะช่วยเติมเต็มพละกำลังของพวกเขาให้มีแรงฝึกในวันต่อๆไป เพราะฉะนั้นการที่กลุ่มของเราใหญ่ขึ้น เราจึงมีระเบียบในการออกล่าอาหารได้อย่างเป็นระบบ และง่ายยิ่งขึ้นถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับศัตรูที่เก่งกว่าก็ตาม

ปัญหาใหญ่ที่สุดคืออาวุธยุทโธปกรณ์ ในโลกที่ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแออาวุธที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสในการอยู่รอด คุณสามารถจู่โจมด้วยเขี้ยวหรืออะไรก็ตาม แต่ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆแล้วอาวุธของพวกมนุษย์นั้นให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่ามาก

แต่ที่คนอ่อนแอยังคงอ่อนแอเหมือนเดิม พวกเขาที่ได้รับอาวุธระดับต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆเช่นนี้พวกเขาถูกมองว่าเป็นพวกอ่อนแอจากสายตาโดยรอบและตกเป็นเป้าได้ง่ายขึ้นแม้จะอยู่ในสภาวะปกติก็ตาม

มันคงไม่ดีนักถ้าหากผมไม่เปลี่ยนกฏนี้ ?

พอคิดเกี่ยวกับการแจกจ่ายอาวุธระดับดีให้กับพวกอ่อนแอมันจะทำให้เราเสียสมบัติแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกระจายกำลังไม่สมดุล เจ้าสิ่งนี้แหละที่จะนำไปสู่หายนะที่แท้จริง

ผมตระหนักถึงข้อเสียพวกนี้เพื่อที่จะปลูกฝังความสามารถของพวกเขา ต่อจากนี้ไปผมจะไม่เปลี่ยนแปลงกฎนี้ ผมจะฝึกพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะกระอักเลือดทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนพวกเขากำลังตายเพื่อเพิ่มความสามารถของแต่ละคน

โคโบลด์บางคนใกล้ถึงเลเวล 100 และกำลังจะเลื่อนระดับแล้ว การจัดอันดับจะถูกจัดขึ้นในอีกไม่ช้า นอกจากนี้ผมคาดหวังบางอย่างสำหรับเด็กหนุ่มโคโบลด์ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต

การแข่งขันของพวกเขาอาจเป็นไปในทางที่ดีดังนั้น ผมจึงมีนโยบายที่จะเน้นไปที่การฝึกซ้อมของพวกเขาเป็นหลัก